กลายเป็นหัวใจสำคัญในแนวรุกที่ ปอร์โต้ ยักษ์ใหญ่ในลีกโปรตุเกส จะขาดไปไม่ได้เสียแล้วสำหรับ กาเลโน ริมเส้นตัวจี๊ดของทีม วัย 26 ปี ชาวบราซิล ที่กำลังทำประตูเป็นว่าเล่น พร้อมทั้งยังสร้างสรรค์เกมให้กับทีมได้อย่างน่าตื่นตาตื่นใจ จนได้รับการจับตามองจากหลายทีมในยุโรป
กาเลโน มีชื่อเต็มว่า เวนเดอร์สัน โรดริเกส โด นาสซิเมนโต กาเลโน เกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 1997 ที่ บาร์รา โด คอร์ดา ประเทศบราซิล เขาเหมือนกับนักฟุตบอลบราซิลหลายๆคน ที่ต้องดิ้นรนในครอบครัวที่ยากจนตั้งแต่ยังเด็ก มีเพียงความฝันที่ต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพเท่านั้น ที่จะทำให้ครอบครัวลืมตาอ้าปากได้
กาเลโน พยายามฝึกฝนฟุตบอลด้วยตัวเองตามท้องถนนในบราซิล กว่าผ่านการคัดเลือกได้เป็นนักฟุตบอลก็ต้องรอถึงอายุ 17 ปี โดยอยู่กับสโมสร ตรินดาเด ในบ้านเกิด
เพียง 1 ปีเท่านั้น เขาก็แสดงฝีเท้าได้อย่างน่าทึ่งในทีมสำรอง ก่อนจะถูกดันขึ้นมายังชุดใหญ่ และยิงไป 5 ประตู จากการลงสนาม 10 นัด นับเป็นฟอร์มการเล่นที่น่าสนใจ จนถูก เกรมิโอ ดึงตัวไปร่วมทีม
แต่ยังไม่ทันไร ก็เป็น ปอร์โต ที่ติดต่อไปขอยืมตัวเขามาลองเล่นในลีกโปรตุเกส ซึ่ง กาเลโน ก็แสดงฝีเท้าได้อย่างยอดเยี่ยม ลงเล่นในลีกสำรอง ยิงไป 10 ประตู จาก 37 นัด ทำให้ในฤดูกาลต่อมา ปอร์โต ตัดสินใจซื้อเขามาร่วมทีมแบบถาวร
อย่างไรก็ตามด้วยความที่อายุยังน้อยทำให้ใน ฤดูกาล 2018/19 ปอร์โต ปล่อยเขาไปให้ ริโอ อาฟ ยืมตัวไปใช้งาน ซึ่ง กาเลโน ก็ไปโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ยิงไป 9 ประตู จาก 36 นัด ทำให้ได้รับความสนใจจาก บรากา จนได้ย้ายทีมมาในฤดูกาล 2019/20
กาเลโน ยังโชว์ฟอร์มได้ดีต่อเนื่อง แม้จะย้ายมาอยู่กับ บรากา เขาเป็นหนึ่งในนักเตะในลีกโปรตุเกส ที่มีฟอร์มคงเส้นคงวาที่สุด ก่อนจะรวมคว้าแชมป์ Taça da Liga ฤดูกาล 2019/20 และ Taça de Portugal ฤดูกาล 2020/21
ต่อมาในฤดูกาล 2021/22 ปอร์โต ที่เพิ่งเสียแนวรุกคนสำคัญอย่าง หลุยส์ ดิอาซ ไปให้กับ ลิเวอร์พูล จึงต้องการหาตัวตายตัวแทนในตำแหน่ง ริมเส้นฝั่งซ้าย ทำให้ ปอร์โต ไม่รอช้าที่จะให้ออปชั่นซื้อ กาเลโน กลับมาร่วมทีมอีกครั้ง
กาเลโน ตอบโจทย์ให้กับ ปอร์โต และทดแทนที่ของ ดิอาซ ได้อย่างยอดเยี่ยม เขายิงประตูได้อย่างต่อเนื่อง จนถึงตอนนี้ ลงเล่นไปแล้ว 105 นัด ยิงไปถึง 28 ประตู พาทีมประสบความสำเร็จมากมายทั้งแชมป์ลีก 2 สมัย แชมป์ Taça de Portugal 2 สมัย และ Taça da Liga อีก 1 สมัย
ปัจจุบัน กาเลโน ได้รับความสนใจอย่างมากจากหลายทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรป และด้วยฟอร์มอันโดดเด่นแบบนี้ เชื่อว่าแฟนบอลอาจได้เห็นเขาติดทีมชาติบราซิล ด้วยก็เป็นได้
