คาร์โล อันเชล็อตติ ถือเป็นหนึ่งในบุคคลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์วงการฟุตบอล ทั้งในฐานะนักเตะและผู้จัดการทีม ความสำเร็จอันยาวนานของเขาไม่เพียงแค่ถูกบันทึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของหลายสโมสรยักษ์ใหญ่ แต่ยังถูกจารึกไว้ในใจของแฟนบอลทั่วโลก
คาร์โล อันเชล็อตติ เกิดเมื่วันที่ 10 มิถุนายน 1959 (ปัจจบุันอายุ 65 ปี) เขาเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังขในฐานะกองกลางฝีเท้าดีที่แจ้งเกิดกับสโมสรปาร์ม่า ก่อนจะย้ายไปร่วมทีมโรม่าในปี 1979 ซึ่งเขากลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในยุคทอง คว้าแชมป์โคปปา อิตาเลียถึง 4 สมัย และแชมป์กัลโช่ เซเรีย อา ในฤดูกาล 1982/83 จากนั้นในปี 1987 เขาย้ายไปอยู่กับเอซี มิลาน ภายใต้การคุมทีมของอาร์ริโก้ ซาคคี่ ที่นั่นเขาคว้าแชมป์ยูโรเปียนคัพ 2 สมัยติดต่อกันในปี 1989 และ 1990 พร้อมแชมป์ลีกอีก 2 สมัย ก่อนจะอำลาสนามในปี 1992
หลังแขวนสตั๊ด อันเชล็อตติก้าวเข้าสู่วงการผู้ฝึกสอน โดยเริ่มจากเป็นผู้ช่วยของทีมชาติอิตาลีในช่วงฟุตบอลโลก 1994 จากนั้นได้คุมทีมเรจจิน่า, ปาร์ม่า และยูเวนตุส ก่อนจะมาสร้างชื่ออย่างแท้จริงกับเอซี มิลาน โดยเขานำรอสโซเนรี่คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2 สมัยในปี 2003 และ 2007 พร้อมแชมป์เซเรีย อา ปี 2004
หลังจากแยกทางกับมิลานในปี 2009 เขาย้ายมาคุมเชลซีในอังกฤษ และนำทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ในฤดูกาล 2009/10 ด้วยสไตล์การเล่นที่ดุดันและเน้นเกมรุก ก่อนจะไปคุมปารีส แซงต์-แชร์กแมงในฝรั่งเศส และพาทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงในปี 2013
จุดพีกอีกช่วงของเขาเกิดขึ้นที่เรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2013/14 ซึ่งเขานำทีมคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 10 ที่แฟนบอลมาดริดรอคอยมานาน ภายใต้แนวรุก “BBC” อันลือลั่น (เบนเซม่า, เบล, โรนัลโด้) พร้อมแชมป์โกปา เดล เรย์ ในฤดูกาลเดียวกัน แม้จากนั้นจะได้ย้ายไปคุม บาเยิร์น มิวนิก ในฤดูกาล 2016/17 และต่อไปยัง นาโปลี ในปี 2018/19 และ เอฟเวอร์ตัน ฤดูกาล 2019/20 แต่เขาก็หวนกลับมายัง เรอัล มาดริด อีกครั้งในปี 2021
ในรอบสองกับเรอัล มาดริด อันเชล็อตตินำทีมคว้าแชมป์ลาลีกา และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก อีกครั้งในฤดูกาล 2021/22 กลายเป็นโค้ชคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์แชมเปียนส์ลีกได้ถึง 4 สมัย ในฐานะผู้จัดการทีม (2 สมัยกับมิลาน และ 2 สมัยกับมาดริด) พร้อมยังคว้าแชมป์ซูเปอร์คัพ, คลับเวิลด์คัพ และโคปา เดล เรย์ อีกหลายรายการ
แม้ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับราชันชุดขาว แต่ในฤดูกาล 2024/25 ก็มีสัญญาณชัดเจนว่าอาจเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับสโมสร มีรายงานว่ามีโอกาสสูงที่อันเชล็อตติจะอำลาตำแหน่งหลังจบซีซั่น โดยสื่อในสเปนและยุโรปต่างรายงานตรงกันว่าเขากำลังพิจารณาเส้นทางใหม่ ซึ่งอาจรวมถึงการรับตำแหน่งโค้ชทีมชาติบราซิลตามข่าวลือก่อนหน้านี้ หรืออาจตัดสินใจพักจากวงการหลังใช้เวลามากกว่า 40 ปีในวงการฟุตบอล
อันเชล็อตติไม่เพียงเป็นโค้ชที่คว้าแชมป์ได้กับลีกใหญ่ทั้ง 5 ประเทศ (อิตาลี, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, สเปน) แต่ยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้นำที่เข้าใจนักเตะ มีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม และวางแผนการเล่นได้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่หาได้ยากในวงการฟุตบอลยุคใหม่
ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ชื่อของคาร์โล อันเชล็อตติจะยังคงอยู่ในทำเนียบตำนานของวงการลูกหนังไปอีกนาน เพราะเขาไม่ใช่แค่ผู้ชนะในสนาม แต่ยังเป็นแบบอย่างความสำเร็จที่แท้จริงของเกมฟุตบอล