ประวัตินักกีฬา

คาเซมิโร ตัวตัดเกมระดับโลกขวัญใจคนใหม่ ‘ปีศาจแดง’

คาเซมิโร ตัวตัดเกมระดับโลกขวัญใจคนใหม่ 'ปีศาจแดง'

 กลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของทัพ “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ไปเรียบร้อยสำหรับ คาเซมิโร เมื่อมีโอกาสได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องก็ทำผลงานได้เป็นที่น่าประทับใจ จนยกระดับฟอร์มของทีมให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นมา 

 คาเซมิโรหรือชื่อเต็มๆ คาร์ลอส เอ็นริเก คาซิมิโร เกิดเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 1992 อาศัยอยู่ในย่านเซา โฮเซ ดอส คัมโปส ในเซาเปาโล ประเทศบราซิล โดยครอบครัวของคาเซมิโรนั้นยากจนเหมือนๆกับนักเตะบราซิลทั่วๆไป แต่หนักกว่าตรงที่คุณพ่อเสียชีวิต อีกทั้งบ้านยังโดนยึด ทำให้เขากับคุณแม่ต้องหาที่หลับนอนไปเรื่อยๆ ซึ่งทางออกเดียวที่สามารถช่วยให้เขาหลุดพ้นได้คือฟุตบอล

 แน่นอนว่าเด็กบราซิลทุกคนล้วนมีความฝันเดียวกัน เช่นเดียวกับใน เซาเปาโล ที่มีเด็กมากมายต้องการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และต้องการเข้าใกล้ความฝันนั้นด้วยการไปอยู่ในอคาเดมีของ เซาเปาโล ให้ได้ ซึ่งทุกๆปีจะมีทั้งเด็กที่ผิดหวัง และสมหวังอยู่เสมอ

 คาเซมิโรเองก็เคยเป็นหนึ่งในเด็กที่เข้าไปทดสอบฝีเท้าและผิดหวัง กระทั่งเมื่ออายุได้ 12 ปี เขาได้เข้าไปคัดเลือกกับ เซาเปาโล อีกครั้งท่ามกลางเด็กๆหลายร้อยคน ซึ่งเดิมทีเขาเล่นในตำแหน่งกองหน้า เนื่องจากได้เปรียบที่เป็นคนตัวใหญ่ และแข็งแรงกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่แล้วเขาก็คิดบางอย่างออก เมื่อโค้ชถามว่า มีใครบ้างที่เล่นตำแหน่งกองหน้า ปรากฏมีเด็กไม่ต่ำกว่า 50 คนยกมือขึ้น ก่อนที่จะถามต่อว่ามีใครเล่นตำแหน่งหมายเลข 10 บ้าง ก็มีเด็กอีกไม่ต่ำกว่า 50 คนยกมือขึ้นอีก เขาเห็นท่าไม่ดีจึงลดมือลง เนื่องจากมีคู่แข่งในตำแหน่งนี้เยอะเกินไป

 ในระหว่างที่เขากำลังครุ่นคิดว่าตัวเองจะเล่นตำแหน่งไหนดี โค้ชก็ถามจนวนมาที่ตำแหน่งกองกลางตัวรับ ซึ่งขณะนั้นมีเด็กเพียง 8 คนที่ยกมือ ทำให้เขาตัดสินใจฉวยโอกาสนี้ยกมือขึ้นเลือกในตำแหน่งกลางรับ นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขาได้เข้าทีม และเริ่มหันมาเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวรับนับแต่นั้น

 ชีวิตของคาเซมิโรเปลี่ยนไปทันที ไม่ใช่เพียงตำแหน่งใหม่ที่เขาต้องเรียนรู้ แต่รวมถึงชีวิตความเป็นอยู่ก็ดีขึ้น เขามีห้องพักให้หลับนอน มีอาหารให้กินอิ่ม มีห้องแอร์เย็นๆ มีทีวีให้ดูเป็นครั้งแรกในชีวิต และเขาก็ไม่ทิ้งโอกาสนี้ให้หลุดลอยไป พยายามพัฒนาฝีเท้ากระทั่งอายุ 18 ปี คาเซมิโรก็ได้รับรางวัลด้วยการได้เซ็นสัญญาอาชีพกับเซาเปาโล และขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ สำเร็จ

 คาเซมิโรมีจุดเด่นที่ร่างกายแข็งแกร่ง มีความสามารถในการอ่านบอล ตัดบอลได้ดีเยี่ยม แถมยังจ่ายบอลได้ดี ทำให้เขายืนระยะลงเล่นให้กับ เซาเปาโล อยู่ 3 ปี ก็มีสโมสรในยุโรปหลายทีมให้ความสนใจ ก่อนที่สุดท้ายจะเป็น เรอัล มาดริด สโมสรในฝันของใครหลายๆคนดึงตัวเขาไปร่วมทีม

 ในช่วงแรกคาเซมิโรไม่ได้มีโอกาสลงสนามมากนัก ส่วนใหญ่เขาจะถูกส่งลงไปเล่นกับทีมสำรอง ก่อนที่ฤดูกาล 2014/2015 จะโดนยืมตัวไปเล่นกับ ปอร์โต้ ในลีกโปรตุเกส นั่นทำให้เขามีโอกาสได้ลงสนามและได้พัฒนาตัวเองไปอีกขั้น

 เขาเล่าว่า การเล่นกับกับ ปอร์โต้ ทำให้เขาเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง เขาพยายามสร้างเป้าหมายที่แตกต่างจากผู้เล่นคนอื่น หลังจบเกมเขามักจะเช็กสถิติของตัวเองว่าแย่งบอล หรือตัดบอลคู่แข่งได้กี่ครั้ง ซึ่งมันเปรียบเสมือนกับการยิงประตู หรือทำแอสซิสต์ ในแบบของเขาเลยทีเดียว

 หลังจบฤดูกาล คาเซมิโร กลับมายัง มาดริดอีกครั้ง  ในยุคของ ซีเนดีน ซีดาน กุนซือที่เข้ามารับงานแทน ราฟาเอล เบนิเตซ ซึ่ง ซีดาน ได้ให้โอกาสเขาลงลงเล่น เนื่องจากรู้ฝีเท้าของ คาเซมิโร ดีอยู่แล้วสมัยที่เป็นโค้ชให้กับทีมสำรองของ เรอัล มาดริด

 และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คาเซมิโรคว้าโอกาสยึดตัวจริง และพัฒนาฝีเท้าจนกลายเป็นหนึ่งในกองกลางตัวรับที่ดีที่สุดในโลก และกวาดแชมป์กับ เรอัล มาดริด มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลาลีก้า 3 สมัย, โคปา เดล เรย์ 1 สมัย, ซูเปอร์ โคปา 3 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 5 สมัย, ซูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ อีก 3 สมัย

 คาเซมิโร

 เมื่อกวาดรางวัลมาทุกอย่างที่ทำได้กับเรอัล มาดริด แล้ว ก็ถึงเวลาที่ คาเซมิโร ต้องการหาความท้าทายใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการย้ายมาสู่ทีม แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในปัจจุบัน ด้วยค่าตัวเป็นที่ฮือฮาสำหรับนักเตะวัย 30 ปี  60+10 ล้านยูโร 

 แม้ช่วงแรกเขาจะต้องนั่งดูเพื่อนเล่นอยู่ข้างสนาม แต่เมื่อได้ลงเล่นก็ยกระดับแผงมิดฟิลด์ของ ปีศาจแดง ขึ้นทันที จนตอนนี้ก็ทำไป 1 แอสซิสต์ กับฟอร์มการเล่นอันดุดัน ที่ไล่ตัดเกมคู่แข่งชนิดได้ใจแฟนบอล

 น่าสนใจทีเดียวว่าคาเซมิโรจะช่วยยกระดับผลงานของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ให้ดีขึ้นขนาดไหน แต่ที่การันตีได้เลยคือฝีเท้าของเขาคือระดับโลกอย่างแท้จริง 

Most Popular

To Top