จัดด์ ทรัมป์ นักสนุกเกอร์ดีกรีมือ 1 โลกจากอังกฤษ ได้รับวีซ่าจากสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของฮ่องกง ให้สามารถเดินทางมาพำนักที่ฮ่องกงได้ ตามรอย รอนนี โอ’ซุลลิแวน นักสอยคิวรุ่นพี่ที่ได้มาก่อนหน้านี้
จากการยืนยันของ Hong Kong Talent Engage (HKTE) หน่วยงานของรัฐบาล ซึ่งมีบทบาทในการเชิญชวนบุคคลที่มีชื่อเสียงและความสามารถระดับโลก มาอาศัยอยู่ที่ฮ่องกง ระบุว่า ทรัมป์ วัย 35 ปี จะได้รับสิทธิวีซ่าครั้งนี้ โดยเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Quality Migrant Admission Scheme (QMAS) โดยเป้าประสงค์คือให้บุคคลที่อยู่ในโครงการดังกล่าว มีส่วนในการดึงดูดนักท่องเที่ยว และสร้างชื่อเสียงแก่ฮ่องกง ผ่านกิจกรรมที่พวกเขาชำนาญ
ทั้งนี้ จัดด์ ทรัมป์ ได้รับวีซ่าฮ่องกง เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ระหว่างกำลังทำศึกในรายการ มาเก๊า สนุกเกอร์ มาสเตอร์ส ระหว่างวันที่ 25-28 ธันวาคม 2024 ซึ่งในคลิปที่ประกาศข่าวได้รับวีซ่าครั้งนี้ของ ทรัมป์ แสดงให้เห็นว่า ทรัมป์ กำลังเพลิดเพลินกับอาหารฮ่องกงคลาสสิก ทาร์ตไข่ และขนมปังสับปะรด พร้อมทั้งกำลังแสดงความเห็นเกี่ยวกับแต่ละเมนู
ทรัมป์ อดีตแชมป์โลกปี 2019 ที่เพิ่งได้รับบัตรประชาชนของฮ่องกงผ่านโครงการนี้ เผยว่า ตนมาอยู่ที่นี่เพราะชื่นชอบเมืองนี้ รักทุกอย่างที่เกี่ยวกับฮ่องกง ไม่ว่าผู้คน อาหาร หรือสถานที่ต่างๆ การมาอยู่ที่นี่สร้างแรงบันดาลใจได้เป็นอย่างดี
“ผมคิดว่าสำหรับผมแล้ว วิวสวยมาก (บนเดอะพีค) ผมเคยขึ้นไปที่นั่นสองสามครั้งและไม่เคยเบื่อที่จะมองไปรอบๆ และชมทิวทัศน์ที่สวยงาม” ทรัมป์กล่าว
“ผชอบประวัติศาสตร์เบื้องหลังรถราง และการได้เที่ยวชมเมืองและชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ถือเป็นวิธีประวัติศาสตร์ในการเดินทางไปรอบๆ สำหรับฉัน มันสร้างแรงบันดาลใจมาก”
สำหรับ ทรัมป์ ถือเป็นนักสนุกเกอร์ระดับโลกคนที่สองแล้วที่ได้สิทธิวีซ่าพำนักที่ฮ่องกง ต่อจาก รอนนี่ โอซุลลิแวน แชมป์โลก 7 สมัย ซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของโลก ที่ได้สิทธิวีซ่าพำนักที่ฮ่องกงเมื่อเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา ในโครงการเดียวกัน ซึ่ง “เดอะ ร็อคเก็ต” ได้กล่าวเช่นกันว่าดีใจที่ได้โอกาสมาใช้ชีวิตที่ฮ่องกง เขาชื่นชอบเรื่องวัฒนธรรมต่างๆ อาหารการกิน รวมถึงการเก็บภาษีชาวต่างชาติที่ต่ำกว่าอังกฤษด้วย
นอกจากนี้ ฮ่องกง ยังถือเป็นสถานที่ที่นักสนุกเกอร์ทั่วโลกต่างชื่นชอบ โดยที่แห่งนี้เคยทำสถิติโลก ในการมีผู้ชมมากกว่า 8,000 คน สร้างบรรยากาศที่ยอดเยี่ยมสำหรับวงการสนุกเกอร์ ซึ่งในจุดนี้เอง ก็เป็นส่วนที่ทำให้ ทรัมป์ ชื่นชอบสถานที่แห่งนี้ด้วย