อเล็กซานเดอร์ ซเวเรฟ นักหวดมือ 2 ของโลกจากเยอรมนียกย่อง ยานนิก ซินเนอร์ ผู้เล่นมือ 1 โลกจากอิตาลีว่าเก่งสมราคาที่ครองตำแหน่งดังกล่าว
โดย ซินเนอร์ โชว์ฟอร์มได้น่าประทับใจในฤดูกาล 2024 หลังเจ้าตัวคว้าแชมป์มาครอง 8 รายการซึ่ง 2 จาก 8 ทัวร์นาเมนต์นั่นก็คือ แกรนด์สแลมอย่าง ออสเตรเลียน โอเพ่น และยูเอส โอเพ่น รวมทั้งเอทีพี ไฟนัลส์ และพาทีมอิตาลีคว้าแชมป์ เดวิส คัพ ได้ด้วย
นอกจากนั้นแล้วแร็กเกตวัย 23 ปียังมีสถิติการเล่นชนะ 73 แมตช์ และแพ้เพียง 6 แมตช์ หรือคิดว่าเป็นอัตราการชนะถึง 92.4% จนส่งผลให้เขาครองตำแหน่งมือ 1 โลกของปีนี้ และเป็นการขยับมาหลังปี 2023 เจ้าตัวจบในมือ 4 โลก
ล่าสุด ซเวเรฟ ให้สัมภาษณ์กับสื่ออย่าง “เทนนิส แม็กกาซีน” เปรียบเทียบสองนักหวดอย่าง ซินเนอร์ และคาร์ลอส อัลคาราซ มือ 3 ของโลกจากสเปน ว่า รู้จัก ซินเนอร์ มาตั้งแต่อายุ 16-17 ปีแล้ว ในมุมของเทนนิสเขาเหมาะสมแล้วกับการเป็นมือ 1 ของโลก ได้แชมป์แกรนด์สแลม 2 รายการ แชมป์มาสเตอร์ส 3 รายการ และได้แชมป์เอทีพี ไฟนัลส์ด้วย ตอนนี้เขาเป็นนักเทนนิสที่ดีที่สุดในโลกแล้ว เพราะได้แชมป์มากที่สุดในช่วงหลัง
ซเวเรฟ กล่าวอีกว่า ส่วน อัลคาราซ แชมป์แกรนด์สแลมวิมเบิลดัน และวิมเบิลดัน 2024 นั้น สนิทสนมกันดี ใช้เวลาอยู่ด้วยกันนอกสนามบ่อยครั้ง และมีแมตช์ที่ยอดเยี่ยมที่แข่งกันหลายครั้ง ทุกครั้งที่เจอกันจะต้องแข่งด้วยมาตรฐานที่สูงมาก เต็มไปด้วยความสนุก และเราสนุกกันมากเมื่อต้องแข่งกัน
อย่างไรก็ตาม ซินเนอร์ พัวพันกับปัญหาการไม่ผ่านตรวจสารกระตุ้น 2 ครั้งในเดือน มี.ค. ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในวงการเทนนิสโลกถึงการปฏิบัติที่สองมาตรฐานของไอทีไอเอ เนื่องจากกรณีของ ซินเนอร์ ไม่เป็นข่าวเลยจนกระบวนการทุกอย่างสิ้นสุดแล้ว และไม่ต้องรับโทษใดๆ อีกทั้งขั้นตอนต่างๆ ดำเนินไปอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับหลายๆ กรณี
ต่อมาองค์การต่อต้านสารต้องห้ามโลก (วาด้า) ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกโดยระบุว่า แม้ว่าคณะกรรมการไต่สวนอิสระจะยอมรับคำอธิบายของ ซินเนอร์ แต่เขาก็ควรมีส่วนต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ และควรได้รับโทษแบน 1-2 ปี