พรีเมียร์ลีก ลีกฟุตบอลชื่อดังออกแถลงการณ์ หลังสโมสรสมาชิกมีมติเป็นเอกฉันท์ในการนำเทคโนโลยีเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ มาใช้งาน นับตั้งแต่ฤดูกาล 2024/25 เป็นต้นไป
ในช่วงที่ผ่านมาพรีเมียร์ลีก ถูกวิจารณ์จากหลายส่วนในเรื่องของการตีเส้นล้ำหน้าจากทีมงานผู้จัดสิน ที่ดูจะไม่มีความแม่นยำ รวมถึงมีความหลายมาตราฐาน และกระทบถึงหลายสโมสรที่ได้รับผลกระทบจากการตัดสินดังกล่าว
ล่าสุด สโมสรในพรีเมียร์ลีก ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ในการนำเทคโนโลยีเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ (Semi-Automated Offside Technology) มาใช้งานในฤดูกาลหน้าเป็นที่เรียบร้อย โดยคาดว่าเทคโนโลยีจะพร้อมเปิดตัวหลังจากช่วงพักเบรคทีมชาติในช่วงฤดูใบไม้ร่วง หรือประมาณช่วงเดือนกันยายน, ตุลาคม
สำหรับเทคโนโลยีเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติ ถูกใช้งานในลีกชื่อดังอย่าง กัลโช เซเรีย อา อิตาลี รวมถึงทัวร์นาเมนต์อย่าง ฟุตบอลโลก, ฟุตบอลยูโร และฟุตบอลยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ได้นำเทคโนโลยีดังกล่าวมาเช่นงาน และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี ขณะที่ลา ลีกา สเปน ก็เพิ่งประกาศเตรียมใช้งานเทคโนโลยีดังกล่าวในฤดูกาลหน้าไปเมื่อไม่นานมานี้
จากแถลงการณ์ของพรีเมียร์ลีก ระบุว่า “ในการประชุมผู้ถือหุ้นของพรีเมียร์ลีกวันนี้ สโมสรต่าง ๆ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการนำเทคโนโลยีจับล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติมาใช้ ระบบใหม่นี้จะถูกใช้เป็นครั้งแรกในพรีเมียร์ลีกในฤดูกาลหน้า และคาดว่าเทคโนโลยีจะพร้อมเปิดตัวหลังจากช่วงพักเบรคทีมชาติในช่วงฤดูใบไม้ร่วง”
“เทคโนโลยีนี้จะมอบการวางตำแหน่งล้ำหน้าแบบเสมือนจริงที่รวดเร็วและสม่ำเสมอ โดยขึ้นอยู่กับการติดตามผู้เล่นแบบออปติคัลและจะสร้างกราฟิกคุณภาพสูงในการถ่ายทอดสด เพื่อให้แน่ใจว่าแฟนบอลจะได้รับประสบการณ์ในสนามกีฬาและการถ่ายทอดสดที่ดีขึ้น”
สำหรับเทคโนโลยีเช็คล้ำหน้ากึ่งอัตโนมัติจะเข้ามาช่วยลดปัญหาในการตัดสิน โดยเฉพาะจังหวะล้ำหน้า ซึ่งจะตัดสินได้รวดเร็ว และแม่นยำกว่าการใช้การตีเส้นเหมือนที่แฟนบอลคุ้นตาในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นับตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา
โดยการทำงานของระบบดังกล่าวจะเริ่มขึ้นทันทีเมื่อมีการทำประตูเกิดขึ้น หรือ มีการตัดสินในจังหวะสำคัญของเกม โดยจะเช็กว่า ในจังหวะที่มีประตูเกิดขึ้นนั้น มีนักเตะที่เกี่ยวข้องกับการเล่นอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าหรือไม่ รวมถึงมีการฝังชิปในลูกฟุตบอล เพื่อส่งข้อมูลไปยังห้องวีเออาร์ ซึ่งจะช่วยให้สามารถตรวจจับทิศทางของลูกบอลที่ถูกเตะออกไปได้อย่างแม่นยำอีกด้วย ซึ่งพรีเมียร์ลีก คาดหวังว่า การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จะช่วยลดระยะเวลาในการตัดสิน และช่วยลดข้อถกเถียงโดยเฉพาะจังหวะล้ำหน้าที่เป็นปัญหานั่นเอง
