ประวัตินักกีฬา

ฟรานซิส อูโซโฮ นายด่านผู้เผชิญนานาอุปสรรค

ฟรานซิส อูโซโฮ นายด่านผู้เผชิญนานาอุปสรรค

 กลายเป็นที่พูดถึงและถูกจับตามองทีเดียวสำหรับ ฟรานซิส อูโซโฮ ผู้รักษาประตูชาวไนจีเรีย ที่โชว์เซฟอุตลุดให้กับต้นสังกัดอย่าง โอโมเนีย นิโคเซีย ในศึกฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก เกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้สุดท้ายแล้ว ทีมของเขาจะพ่ายไป 0-1 ก็ตาม

 ฟรานซิส โอดินนากา อูโซโฮ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1998 อาศัยอยู่ในย่านเอ็นวานเกล รัฐอิโม ประเทศไนจีเรีย ซึ่งตั้งแต่ยังเด็ก อูโซโฮ ถือเป็นคนที่มีความเป็น สปอร์ตแมน อยู่เต็มขั้น นอกจากฟุตบอลแล้ว เขายังเล่นกีฬาอื่นๆไปพร้อมกันด้วย โดยครั้งหนึ่งเคยพาทีมแฮนด์บอลโรงเรียนมัธยมบอยส์โมเดล คว้าแชมป์ ในทัวร์นาเมนต์หนึ่งมาแล้ว

 อย่างไรก็ตามกีฬาหลักที่เขาชื่นชอบยังคงเป็น ฟุตบอล เขาได้รับการคัดเลือกจากศูนย์ฝึกเยาวชน แอสไพร์ อคาเดมี สาขาเซเนกัล เมื่ออายุได้ 14 ปี ทำให้ต้องย้ายมาอยู่ในเมืองหลวง อาบูจา ที่ห่างไกลจากบ้านเกิด ซึ่งในตอนแรกนั้นเริ่มเล่นในตำแหน่งศูนย์หน้า

 แต่ทำไปทำมาเหมือน อูโซโฮ จะถูกระบุจากโค้ชว่า เชื่องช้า เกินไปสำหรับการเล่นเกมรุก ประกอบกับที่เขาตัวสูงใหญ่กว่าเพื่อนๆ และมีสกิลในการเล่นแฮนด์บอลอยู่แล้ว ทำให้เขาลองปรับเปลี่ยนมาเล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู

 4 ปีต่อมา จุดเปลี่ยนในชีวิติของ อูโซโฮ ก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อทีมเยาวชนแอสไพร์ ได้เดินทางมาแข่งขันในบาร์เซโลนา ก่อนที่ อูโซโฮ จะโชว์ฟอร์มได้ประทับใจแมวมองของ เดปอร์ติโว ลา คอรุนญา ทำให้ยอดทีมจากสเปน ทำการทาบทาม และดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยวัย 18 ปี

 อูโซโฮ ลงเล่นให้กับทีมสำรองของ เดปอร์ติโว อยู่ 1 ซีซั่น ได้ลงประเดิมสนามในเกมที่ทีมเปิดบ้านเอาชนะ เรอัล มาดริด สำรอง 3-0 ก่อนจะได้ลงเล่นให้กับทีมสำรองอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสติดทีมชาติไนจีเรีย ไปลุยฟุตบอลโลก 2018 ที่ประเทศรัสเซียอีกด้วย

 อูโซโฮ ได้รับความไว้วางใจให้เป็นมือ 1 ของทีมชาติ ทั้งยังโชว์ฟอร์มเซฟอย่างยอดเยี่ยม แม้จะอยู่ร่วมกลุ่มกับยอดทีมอย่าง โครเอเชีย และอาร์เจนตินา รวมถึงไอซ์แลนด์ แต่ก็เสียไปเพียง 4 ประตูเท่านั้น แม้สุดท้ายแล้วไนจีเรีย จะตกรอบแรกฟุตบอลโลก แต่ อูโซโฮ ก็ได้รับความมั่นใจกลับมายังสโมสรอย่างเต็มเปี่ยม

 อย่างไรก็ตามแม้จะโชว์ฟอร์มได้ดีกับทีมชาติ แต่กับสโมสรเขายังคงไม่ได้รับโอกาส และความไว้วางใจ ทำให้ทีมต้องปล่อยให้ เอลเช ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2018/19 แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ของเขาดีขึ้นเมื่อได้ลงสนามเพียง 7 นัด ก็ไม่ได้รับโอกาสอีก ทำให้ฤดูกาลต่อมาต้องย้ายทีมอีกครั้งไปเล่นกับ อานอร์โธซิส ฟามากุสตา ในลีกไซปรัส 

 แต่แล้วก็ไม่วายเกิดปัญหาขึ้นอีกเมื่อ อูโซโฮ ลงเล่นได้นัดเดียวก็ถูก อพอลลอน ลิมาสโซล คู่แข่งในลีกยื่นฟ้องว่าเอกสารด้านสุขภาพของเขาไม่ถูกต้อง ซึ่งโดนทั้งโทษแบนและปรับเงิน แม้จะยื่นอุทธรณ์สำเร็จในเวลาต่อมา แต่สุดท้ายเขาก็ลงสนามได้เพียง 3 นัด ก็ต้องนั่งอยู่ข้างสนามยาวๆเหมือนเดิม

ฟรานซิส อูโซโฮ

 ฤดูกาลต่อมา โอโมเนีย นิโคเซีย ยอดทีมในลีกไซปรัสเช่นกัน ก็เป็นอีกทีมที่ติดต่อขอยืมตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2019/20 แต่ลงสนามได้ไม่เท่าไหร่ อูโซโฮ ก็ต้องพบกับอาการบาดเจ็บ เอ็นไขว้หน้าและกระดูกอ่อนหัวเข่าฉีกขาด จากการลงรับใช้ทีมชาติไนจีเรีย อุ่นเครื่องกับ บราซิล ในช่วงช่วง ฟีฟ่า เดย์  ทำให้ฤดูกาลนั้นเขาลงสนามได้เพียง 5 นัดเท่านั้น

 เมื่อกลับยัง ลา คอรุนญา ซึ่งขณะนี้ทีมตกชั้นไปถึงลีก 3 สเปน ทำให้เขาตัดสินใจเลือกเซ็นสัญญกับ อโปเอล ในลีกไซปรัส ซึ่งที่แห่งนี้เขาได้รับโอกาสมากขึ้่น ลงสนามไป 19 เกม แต่สุดท้ายเมื่อจบฤดูกาล 2020/21 เขาก็ตัดสินใจยกเลิกสัญญากับทีม และย้ายมาอยู่กับ โอโมเนีย ที่เขาเคยมาเล่นก่อนหน้านี้

 อย่างไรก็ตามการย้ายมาครั้งนี้เขาก็ยังคงตกเป็นมือสองของ ฟาเบียโน ริเบโร ที่โชว์ผลงานได้ดี พาทีมคว้าแชมป์ลีก และพาทีมไปลุยศึก ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้สำเร็จ แต่ก็ยังดีที่ได้รับโอกาสอยู่บ้าง ซึ่งในเกมที่พบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ก็เป็นอีกเกมที่เขาได้ลงเล่น

 และเกมนั้นก็ทำให้เขาถูกสปอร์ตไลต์จับตามองจากทั่วโลก ซึ่งเขาก็ได้ให้สัมภาษณ์หลังจบเกมด้วยว่า ความฝันของเขาคือการไปเล่นให้กับ แมนฯยู รวมถึงหลังจบเกมเหล่านักเตะปีศาจแดง ก็ต้อนรับเขาอย่างดีในห้องแต่งตัวอีกด้วย

 หลังจากเผชิญความลำบาก และอุปสรรคต่างๆมานักต่อนัก เชื่อว่าหลังจากนี้ ชีวิตของ อูโซโฮ จะได้รับความสนใจ และโอกาสมากขึ้น ไม่แน่ว่าเร็วๆนี้เราอาจะได้เห็นเขาย้ายไปสู่ทีมที่ใหญ่กว่าก็เป็นได้

Most Popular

To Top