ฟรานเซส ติอาโฟ นักเทนนิสจากสหรัฐอเมริกา ยอมรับว่าตัวเองทำผลงานได้ย่ำแย่ด้วยการเล่นเหมือนไม่อยู่ในท็อป 10 โลกหลังตกรอบสามของแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน
โดย ติอาโฟ ต้องจบเส้นทางในการแข่งขันแกรนด์สแลมวิมเบิลดัน 2023 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ไว้ที่รอบสามหรือรอบ 32 คนสุดท้ายหลังพลาดท่าพ่ายต่อ กริกอร์ ดริมิตอฟ จากบัลแกเรีย 0-3 เซ็ต 2-6, 3-6 และ2-6
หลังการแข่งขัน ติอาโฟ ซึ่งปัจจุบันรั้งมืออันดับ 10 ของโลก ให้สัมภาษณ์ถึงผลงานของตัวเองในแมตช์ที่ผ่านมา โดยชี้เขาเล่นไม่เหมือนคนที่ติดท็อป 10 โลก หรือแม้กระทั่งมีคะแนนของเอทีพีอยู่เลยด้วยซ้ำ
“นี่เป็นแมตช์ที่แย่จริงๆ แย่จริงๆ การเล่นได้แย่แบบนี้มันน่าหดหู่มาก โดยเฉพาะที่วิมเบิลดัน ผมคิดว่า ผมเป็นหนึ่งในผู้เล่นคอร์ตหญ้าที่ดีที่สุดในโลก แต่ผมไม่ได้แสดงมันเลย ผมต้องอยู่กับสิ่งนั้นให้ได้ มันจะเจ็บไปอีกนาน ผมไม่สามารถทำได้ตามต้องการ หรือทำให้เขาเล่นยาก ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนหลังจากการแพ้ ผมตกใจมากกับผงานของผม ผมเล่นได้อย่างน่าสยดสยอง และเป็นที่ยอมรับไม่ได้ที่จะพลาดหลายครั้งแบบนี้บนคอร์ตหญ้า”
“ผมเป็นผู้เล่นท็อป 10 ของโลก แต่เล่นเหมือนไม่มี เอทีพี พอยต์ มันน่ากลัว และมันเจ็บปวด ผมไม่รู้จะลืมมันยังไง ผมวางแผนที่จะกลับบ้าน และเฉลิมฉลองการอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลก แต่นั่นคงจะยากแล้วในตอนนี้ ทุกคนจะตื่นเต้นที่ได้พบผม แต่ผมก็ไม่อยากทำอะไรเลย”
นอกจากนั้นแร็กเกตวัย 25 ปียังพูดถึงเรื่องความคาดหวังที่ตามมาหลังเจ้าตัวประสบความสำเร็จด้วยการคว้าแชมป์ บอส โอเพ่น 2023 พร้อมขึ้นมาติดท็อป 10 โลกเป็นครั้งแรกในอาชีพว่า “ผมได้รับชัยชนะในชีวิตแล้ว ดังนั้นความพ่ายแพ้ของผมจึงไม่เกี่ยวข้องกับความคาดหวัง แต่ผมก็ไม่สามารถสนใจเรื่องนั้นได้น้อยลง ผมอยากชนะรายการแกรนด์สแลมเพื่อตัวเอง ไม่ใช่เพื่อคนอื่น มันเป็นผลงานที่ไม่ดี มันยากที่จะเข้าใจว่าทำไมมันถึงเป็นเช่นนั้น”
ทั้งนี้ ติอาโฟ มีสถิติในการเล่นรายการแกรนด์สแลมที่ไม่ค่อยดีนักนับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อปี 2015 ด้วยสถิติชนะ 35 แมตช์ และแพ้ 29 แมตช์ หรือคิดเป็นอัตราชนะเพียง 55% เท่านั้น