เป็นอีกหนึ่งปราการหลังที่ค่อนข้างจะเงียบหายไป แม้จะเริ่มต้นด้วยเส้นทางที่ดีสำหรับ มาร์ค บาร์ตรา อดีตกองหลังดาวรุ่งของบาร์เซโลนา ที่ปัจจุบันต้องกลายเป็นนักเตะไร้สโมสร และกลับมาตายรังกับ เรอัล เบติส ทีมเก่า
มาร์ค บาร์ตรา อเรกอลล์ เกิดเมื่อวันที่ 15 มกราคม 1991 ที่เซนต์ ฮูเม ประเทศสเปน เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางลูกหนังจากการเข้าไปฝึกฝนกับ เอสปันญอล ในวัย 9 ขวบ ก่อนที่ 2 ปี ต่อมาจะถูกแมวมองของ บาร์เซโลนา ดึงตัวมาขัดเกลาฝีเท้าในลา มาเซีย
มาร์ค บาร์ตรา ถูกดึงเข้าสู่ศูนย์ฝึกชื่อดังนี้พร้อมกับพี่ชายฝาแฝดของเขา แต่เขาค่อยๆโดดเด่นขึ้นเรื่อยๆ มีฟอร์มการเล่นที่เข้าตาโค้ชหลายๆคน เป็นกองหลังที่แข็งแกร่ง และมีเซนส์บอลที่ฉลาด ทำให้เขาได้รับการจับตามองว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นอนาคตของบาร์เซโลนาอย่างแน่นอน
กระทั่งปี 2009 บาร์ตรา ก็ถูกดันขึ้นไปเล่นกับบาร์เซโลนา เบ เขาลงช่วยทีม 30 นัด ทำได้ด้วย 1 ประตู เป็นฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นอย่างมาก
ระหว่างที่ลงเล่นกับทีมสำรอง บาร์ตรา ก็ได้โอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่บาร์เซโลนาด้วย ซึ่งด้วยความสามารถที่หลากหลาย เป็นปราการหลังตัวกลางก็ได้ ฟูลแบ๊กก็ดี ทำให้เขาเป็นที่ถูกใจของโค้ช และแฟนบอลในเวลานั้น กระทั่งฤดูกาล 2012/13 เขาก็ได้ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ บาร์เซโลนา อย่างเต็มตัว
บาร์ตรา ได้รับโอกาสลงสนามเรื่อยๆ เป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของทีม ไม่ว่าจะเป็นการคว้าแชมป์ ลาลีก้า 5 สมัย, โคปา เดลเรย์ 3 สมัย, ซูเปอร์โคปา 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย
อย่างไรก็ตามช่วงท้ายๆที่เล่นให้กับบาร์เซโลนา บาร์ตรา เริ่มมีฟอร์มที่ดรอปลงไป หรืออาจจะเป็นเพราะไม่สามารถพัฒนาไปได้มากกว่านี้ก็ว่าได้ ทำให้เกมรับของบาร์เซโลนา ย่ำแย่ไปด้วย จนทีมต้องหาเสริมนักเตะใหม่มาทดแทน และปล่อย บาร์ตรา ให้กับ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์
การมาเล่นกับ ดอร์ตมุนด์ ก็ไม่ได้ทำให้ บาร์ตรา พัฒนาฝีเท้าขึ้นเท่าไหร่นัก บวกกับมีอาการบาดเจ็บรบกวน ทำให้ลงเล่นได้เพียง 2 ฤดูกาล ก็ถูกปล่อยตัวมาให้กับ เรอัล เบติส ในฤดูกาล 2017/18
อย่างไรก็ตามการได้มาเล่นกับ เบติส ในลีกที่เขาคุ้นเคยทำให้ บาร์ตรา กลับมามีฟอร์มที่น่าสนใจอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นเสียจนหวือหวาอะไร ก่อนที่สุดท้าย ในฤดุกาล 2022/23 เขาจะถูกปล่อยไปให้ แทรบซอนสปอร์ ก่อนจtหมดสัญญาและแยกย้ายกันในที่สุด
ปัจจุบัน บาร์ตรา ตกลงข้อเสนอและกลับมาเล่นให้กับ เรอัล เบติสอีกครั้งในวัย 32 ปี คงต้องมาติดตามกันว่าการกลับมาครั้งนี้เขาจะอยู่ในฟอร์มที่ดีได้หรือไม่
