ย้อนกลับไปราว 8 ปี ก่อนโลกฟุตบอลได้ฮือฮาหลังจากมีเด็กอายุเพียง 15 ปี ได้ลงเล่นในลีกสูงสุด และติดทีมชาติชุดใหญ่นอร์เวย์ นับจากนั้นชื่อของ มาร์ติน โอเดการ์ด ก็เป็นที่รู้จักในฐานะนักเตะดาวรุ่งที่น่าจับตามองที่สุดคนหนึ่งในโลก
มาร์ติน โอเดการ์ด เกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ. 1998 เขาอาศัยอยู่ในเมือง ดรัมเมน ประเทศนอร์เวย์ ซึ่งเป็นเมืองที่ไม่ได้มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลเท่าไหร่นัก แต่ด้วยอิทธิพลทางด้านฟุตบอลที่ได้จาก ฮานส์ เอริก โอเดการ์ด คุณพ่อซึ่งเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพ และเป็นผู้ก่อตั้งทีมเยาวชน ดรัมเมน สตรอง ทำให้ โอเดการ์ด พุ่งความสนใจมาที่ฟุตบอล และเมื่ออายุได้ 6 ขวบเขาก็เข้าฝึกฝนศาสตร์ลูกหนัง โดยมี คุณพ่อของเขาเป็นผู้สอนให้
ด้วยพรสวรรค์ที่เหลือล้น โอเดการ์ด ถูกดึงไปร่วมทีมเยาวชนของ สตรอมส์กอดเซต ตอนอายุได้ 11 ปี ซึ่งเขาต้องเล่นกับเด็กที่อายุมากกว่าตัวเอง 2-3 ปี โดยเริ่มจากตำแหน่งแบ๊กซ้าย แต่เมื่อฝึกฝนได้ 3 ปี โค้ชเห็นว่า โอเดการ์ด เป็นผู้เล่นที่ จัดการสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างยอดเยี่ยม มักจะมีทางเลือกที่ดี สัมผัสที่ดี ฉลาดในการหาตำแหน่ง ทั้งยังมีวิธีคิดที่บางครั้งโค้ชเองก็คิดไม่ถึง ทำให้เขาถูกจับมาเล่นในตำแหน่งเพลย์เมกเกอร์ ในที่สุด
เมื่ออายุได้ 13 ปี โอเดการ์ด ถูกดันขึ้นไปฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ และมีโอกาสได้ลงสนามด้วยในเกมกระชับมิตรกับ มยอนดาเลน ไอเอฟ นอกจากนี้ ยังมีโอกาสได้ไปฝึกซ้อมระสั้นกับ บาเยิร์น มิวนิค และ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 ยักษ์ใหญ่แห่งยุโรปด้วย
จากนั้นปี 2014 โอเดการ์ด ในวัย 15 ปี ถูกใส่ชื่อเป็นผู้เล่นของ สตรอมส์กอดเซต ในการลุยลีกสูงสุด ทิปเปลิเกน นอร์เวย์ แต่เนื่องจาก โอเดการ์ด ยังไม่ได้เซ็นสัญญาอาชีพ จึงเป็นได้เพียงนักเตะสมัครเล่น ซึ่งมีสิทธิ์ลงสนามได้เพียง 3 นัดเท่านั้นต่อฤดูกาล รวมถึงตัวโอเดการ์ด ไม่สามารถฝึกซ้อมกับทีมได้ในช่วงเวลากลางวัน เนื่องจากติดเรียน ทำให้เขาต้องไปฝึกกับ มยอนดาเลน ไอเอฟ ทีมที่คุณพ่อของเขาย้ายมาเป็นโค้ช ไปพลางๆก่อนในช่วงเย็น
แต่ไม่นานนัก โอเดการ์ด ก็ได้รับโอกาสลงเล่นในลีกสูงสุดครั้งแรก ในเกมทีมพบกับ อาเลซุนด์ เอฟเค เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2014 ด้วยวัยเพียง 15 ปี 118 วัน ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในลีกสูงสุดนอร์เวย์ ก่อนที่ 2 เดือนต่อมาจะได้เซ็นสัญญาเป็นนักเตะอาชีพอย่างเป็นทางการ
โอเดการ์ด ได้รับโอกาสลงเล่นต่อเนื่อง และทำประตูแรกของตัวเองได้สำเร็จ ในเกมที่ทีมเอาชนะ ซาร์ปสบอร์ก 08 เอฟเอฟ 4-1 ทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดที่ยิงได้ในลีกสูงสุดนอร์เวย์ ทั้งยังได้ลงสนามในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบคัดเลือก รอบสอง ในเกมที่ทีมแพ้ สเตอัว บูคาเรต 0-1 อีกด้วย
และในปีเดียวกันนี้เอง โอเดการ์ด ยังคงสร้างปรากฏการณ์ต่อเนื่อง ด้วยการถูกเรียกติดทีมชาติ นอร์เวย์ ชุดใหญ่ พร้อมกับได้ลงสนามอุ่นเครื่องในเกมที่พบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ กลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับทีมชาตินอร์เวย์ ด้วยวัยเพียง 15 ปี 253 ทุบสถิติเดิมกว่า 104 ปี ของ ตอร์มอด คเยลล์เซน เจ้าของสถิติเดิมอายุ 15 ปี 351 วัน ที่ทำไว้ตั้งแต่ปี 1910 เลยทีเดียว
หลังจากนั้นปี 2015 โอเดการ์ด ถูก เรอัล มาดริด ยักษ์ใหญ่ในลาลีก้า สเปน ดึงตัวไปร่วมทีมด้วยราคา 4 ล้านยูโร ก่อนจะถูกปล่อยยืมตัวเป็นว่าเล่น โดยไปอยู่กับ ฮีเรนวีน ในลีกฮอลแลนด์ ปี 2017 ลง 38 นัด ยิง 3 ประตู ไปอยู่กับ วิเทสส์ ปี 2018 ลง 31 นัดยิง 8 ประตู ไปอยู่กับ เรอัล โซเซียดัด ปี 2019 ลง 31 นัดยิง 4 ประตู ก่อนจะกลับมาเล่นให้กับ เรอัล มาดริด อยู่ช่วงเวลาสั้นๆ ลงสนามเพียง 8 นัด แต่ก็ยังไม่สามารถสอดแทรกเป็นผู้เล่นตัวจริงได้ จนสุดท้ายเป็น อาร์เซนอล ที่ขอยืมตัว และซื้อขาดมาเป็นกำลังหลักสำคัญของ “ปืนใหญ่” ในปี 2021 ด้วยค่าตัว 35 ล้านยูโร
กับทีมชาตินอร์เวย์ โอเดการ์ด ถูกเรียกตัวอย่างต่อเนื่องทั้งในชุดไม่เกิน 21 ปี และชุดใหญ่ ก่อนจะกลายเป็นผู้เล่นความหวังสำคัญของนอร์เวย์ในปัจจุบัน แม้ล่าสุดจะพลาดการไปฟุตบอลโลก 2022 แต่แฟนบอลนอร์เวย์ หมายมั่นเหลือเกินว่า อัจฉริยะในรอบ 100 ปี อย่าง โอเดการ์ด คืออนาคต และความหวังที่จะพาทีมชาติของพวกเขากลับมายิ่งใหญ่ได้