มาร์โก รอยส์ เผย “ผมยินดีแลกเงินทั้งหมดของผม กับการมีร่างกายที่แข็งแรงอีกครั้ง เพื่อทำสิ่งที่ผมรัก นั่นคือการเล่นฟุตบอล”
นี่คือคำพูดของ มาร์โก รอยส์ กัปตันทีมโบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ที่เคยกล่าวไว้หลังจากต้องพบกับอาการบาดเจ็บรบกวน จนมีอันต้องพลาดทัวร์นาเมนต์สำคัญเสมอ และมันก็เกิดขึ้นอีกครั้งในเกมที่ ดอร์ตมุนด์ ชนะ ชาลเก้ 1-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 17 กันยายน ที่ผ่านมา ซึ่งภาพที่เขาถูกหามออกจากสนามพร้อมกับน้ำตา ยังคงสร้างความเห็นใจกับแฟนบอลทั่วโลก ว่าทำไมฟ้าจึงเล่นตลกกับชายผู้นี้อยู่ร่ำไป
ที่ผ่านมา รอยส์ ถือเป็นนักเตะที่ได้รับการชื่นชม และนับถืออย่างมาก โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและความสื่อสัตย์ที่เขามีต่อสโมสร และฟุตบอล ตั้งแต่ยังเด็กเขามักจะหมกมุ่นอยู่กับลูกกลมๆ ว่างๆก็ใช้ผลส้ม หรือไม่ก็ แอปเปิล มาเตะไปมา จนพ่อและแม่ เห็นแววจึงพาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไปเข้าทีมสโมสรบ้านเกิด พอส์ต – เอสวี ดอร์ตมุนด์ ในปี 1994 ก่อนจะได้เป็นนักเตะเยาวชนของ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ในปี 1996
อย่างไรก็ตาม ขณะที่เขาได้รับความจริงข้อหนึ่ง ซึ่งมันเป็นสัจธรรมที่จำเป็นต้องยอมรับ เมื่อถูกแจ้งว่า ร่างกายที่บอบบางของเขานั้นลำบากต่อการเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ รอยส์ ในวัยเด็กไม่มีเวลาลงเล่นกับทีมสม่ำเสมออยู่หลายปี กระทั่งต้องจำใจออกจากทีมไปอยู่กับ รอต-เวบ อาห์เลน ในปี 2006
“มันเจ็บปวดมากที่ผมต้องจากไป เมื่อคุณจำเป็นต้องก้าวไปอีกขั้น แต่ในขณะเดียวกันที่นั่นก็เป็นทีมในฝัน อย่างไรก็ตามผมยังขาดโอกาส ผมออกจาก ดอร์ตมุนด์ เพราะต้องการเวลาลงเล่นมากขึ้น มันไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ดอร์ตมุนด์ต่อ ถ้าคุณยังต้องนั่งบนม้านั่งสำรอง” รอยส์เล่าให้ฟังถึงช่วงเวลานั้น
กับ อาห์เลน รอยส์ใช้เวลาไม่นานจากทีมสำรอง ขึ้นไปอยู่ทีมชุดใหญ่ จากนั้น 2 ฤดูกาล จากผลงาน 43 นัด 5 ประตู ทำให้ โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค ซึ่งเห็นแววคว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2009
รอยส์ กลายเป็นผู้เล่นสำคัญของ กลัดบัค ในเวลาไม่นาน เขาค้าแข้งอยู่กับทีม 3 ฤดูกาล ลงเล่น 97 นัดทำไป 36 ประตู ซึ่งสิ่งที่ยังคงอยู่ในความทรงจำกับแฟนบอลนั่นคือ การทำประตูสำคัญที่ช่วยให้ทีมหนีตกชั้นได้สำเร็จในปี 2011 จากนั้นฤดูกาลต่อมาก็ยิงได้ 18 ประตู พาทีมคว้าอันดับ 4 บุนเดสลีกา คว้าตั๋ว ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก รอบคัดเลือก ก่อนที่ ดอร์ตมุนด์ จะคว้าตัวเขากลับมายังทีมบ้านเกิด และทีมในฝันของเขาในที่สุด
มาร์โก รอยส์ ในเวลานั้นได้รับการจับตามองอย่างมาก และถูกยกย่องว่านี่แหละคืออนาคตของทีมชาติ เยอรมนี เขาถูกเรียกตัวสู่ทีมชาติชุดใหญ่ในปี 2011 และมีชื่ออยู่ในทีมชุดยูโร 2012 แม้ครั้งนั้นจะผ่านเข้าไปถึงรอบรองชนะเลิศ แต่เขาเองก็ยังไม่ได้เป็นตัวหลักเสียทีเดียว
และในฟุตบอลโลก 2014 คือปีที่ รอยส์ นั้นกำลังพีกแบบสุดๆ ยิงให้ ดอร์ตมุนด์ 16 ประตู กับอีก 14 แอสซิสต์ แต่แล้วจุดเริ่มต้นแห่งความอับโชคก็เริ่มต้นขึ้น รอยส์ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้าอย่างหนัก ในเกมอุ่นเครื่องกับ อาร์เมเนีย ที่เยอรมนี ชนะ 6-1 สุดท้ายต้องถอนตัว ก่อนที่ฟุตบอลโลกจะเริ่มขึ้น และในปีเดียวกันนั้นเอง เยอรมนี ก็ก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ โดยไม่มีชื่อของ มาร์โก รอยส์ ถือเป็นความสุขใจที่น่าเจ็บปวดจริงๆสำหรับเขา
อีก 2 ปีต่อมา รอยส์ ซึ่งยังคงเล่นได้สุดยอดเหมือนเดิม ซัดในบุนเดสลีกา ไปถึง 20 ประตู ช่วยดอร์ตมุนด์ จบรองแชมป์ แต่แล้วก็ก่อนที่จะจบฤดูกาล ก็ต้องมาเจ็บที่ขาหนีบ ทำให้พลาดการร่วมทีมชาติไปยูโร 2016
แม้ในฟุตบอลโลก ปี 2018 รอยส์ จะระวังตัวจนกลับมาติดทีมชาติได้สำเร็จ และนี่คือฟุตบอลโลกครั้งแรกของเขา แต่ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมทั้งส่วนตัวของเขาเอง และของทีมกลับหายไปดื้อๆ สุดท้ายเยอรมนี แชมป์เก่า ต้องตกรอบแรกไปแบบช็อกแฟนบอล และในฟุตบอลยูโร 2020 รอยส์ ก็ต้องประกาศถอนตัวจากทีมชาติอีกครั้ง เนื่องจากสภาพร่างกายไม่พร้อม
ลองนับนิ้วดูแล้ว รอยส์ ได้พลาดช่วงเวลาสำคัญของการติดทีมชาติ ไปถึง 3 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่ และในฟุตบอลโลก 2022 ครั้งนี้อาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายแล้วสำหรับ รอยส์ ในวัย 33 ปี กับทีมชาติ แต่แล้วไม่วายโชคชะตาก็ย้อนกลับมาเล่นตลกกับเขาอีกครั้ง กับอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นในเกมกับ ชาลเก้ พลาดโปรแกรมอุ่นเครื่องกับทีมชาติในช่วงสุดท้ายก่อนฟุตบอลโลก
“มันเหมือนฝันพังทลาย ใน 2-3 วันแรกมันแย่มาก แต่โชคดีที่ผมมีครอบครัวและเพื่อนๆ คอยให้กำลังใจอยู่ข้างๆ” รอยส์กล่าวหลังได้รับบาดเจ็บครั้งล่าสุด
อย่างไรก็ตาม เซบาสเตียน เคห์ล ผู้อำนวยการกีฬาดอร์ตมุนด์ เผยความคืบหน้าล่าสุดว่า อาการของ รอยส์ ไม่หนักอย่างที่คิด เป็นแค่การบาดเจ็บเอ็นเล็กน้อย และน่าจะใช้เวลารักษาตัว 3-4 สัปดาห์
เชื่อว่าแฟนบอลทั่วโลกกำลังภาวนา และเป็นกำลังใจให้ รอยส์ หายเจ็บโดยเร็ว
อับโชคมาทั้งชีวิตแล้ว ครั้งนี้ก็ขอให้ รอยส์ โชคดีเหมือนคนอื่นบ้าง สลัดอาการบาดเจ็บและฟิตทันไปฟุตบอลโลก อีกครั้งสมใจ