กำลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมชนิดกระหึ่มเอเชีย สำหรับ มูซา อัล ตามารี แนวรุกทีมชาติจอร์แดน ที่ยิงประตูปิดกล่องเอาชนะ เกาหลีใต้ 2-0 พาทีมผ่านเข้าชิงชนะเลิศ ฟุตบอลเอเชียน คัพ 2023 ไปแบบหักปากกาเซียน
มูซา โมฮัมหมัด มูซา สุไลมาน อัล ตามารี เกิดเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 1997 ที่เมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน เขาเริ่มเข้าสู่เส้นทางลูกหนังจากการฝึกฝนกับทีม ชาบับ อัล ออร์ดอน และที่แห่งนี้คือที่ที่ปั้นเขาขึ้นมาให้กลายเป็นนักเตะสุดมหัศจรรย์
มูซา อัล ตามารี เป็นนักเตะที่ถูกระบุว่ามีพร้อมทั้งสกิล ความเร็ว และการเล่นอันชาญฉลาด เขามีความสามารถในการเก็บบอลไว้กับตัว และเล่นได้แม้ในพื้นที่แคบ ทั้งยังมักทำได้ดีในสถานการณ์หนึ่งต่อหนึ่ง จนถูกได้รับฉายาว่า “เมสซี่จอร์แดน” กระทั่งถูกเรียติดทีมชาติชุดตั้งแต่อายุ 19 ปี
อัล ตามารี ลงเล่นให้กับ ชาบับ อัล ออร์ดอน ชุดใหญ่ ในฤดูกาล 2016/17 ถึง 29 นัด ยิงไป 7 ประตู ก่อนจะถูก อัล จาซีรา ยืมตัวไปใช้งานในฤดูกาล 2017/18 ซึ่งเขาก็ระเบิดฟอร์มซัดไปถึง 18 ประตู จาก 32 นัด ให้กับทีม พร้อมกับคว้าแชมป์ จอร์แดน เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จด้วย
หลังจบฤดูกาลดูเหมือนจอร์แดน จะแคบไปสำหรับเขาแล้ว ตามารี ตกลงย้ายไปเล่นให้กับ อาโอเอล ยักษ์ใหญ่ในลีกไซปรัส ด้วยค่าตัว 4 แสนยูโร โดยเซ็นสัญญากัน 3 ปี ก่อนจะไปโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมพาทีมคว้าแชมป์ ลีกสูงสุดในฤดูกาล 2018/19 และแชมป์ ซูปอร์ คัพ 2019 พร้อมกับคว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมของ ลีกไซปรัส ในฤดูกาล 2018/19 อีกด้วย
จากผลงานอันยอดเยี่ยมทำให้เขาก้าวเข้ามาสู่ลีกที่ใหญ่ขึ้น โดยในฤดูกาล 2020/21 เป็น โอเอช ลูเวิน ในลีกเบลเยี่ยม ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม โดย ตามารี ลงเล่นเป็นแกนหลักของทีมรวมทั้งสิ้น 3 ฤดูกาล ลงสนามไป 90 นัด ยิงไป 10 ประตู
ในฤดูกาล 2023/24 ล่าสุดนี้เอง ตามารี ย้ายมาเล่นให้กับ มงต์เปลลิเยร์ ในลีกเอิง ฝรั่งเศส หลังจากหมดสัญญากับโอเอช ลูเวิน ทำให้เขากลายเป็นนักเตะจอร์แดนคนแรก ที่เล่นอยู่ใน 5 ลีกระดับท็อปของยุโรป โดยปัจจุบันเขาลงสนามให้ทีมไปแล้ว 16 นัดยิงไป 3 ประตู
ส่วนกับทีมชาติจอร์แดน หลังจากติดทีมชาติมาตั้งแต่ปี 2016 เขาก็ถูกเรียกอยู่ในสารบบทีมชาติมาโดยตลอด ปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 68 นัดยิงไป 16 ประตู ซึ่ง 3 ประตูในนั้น คือประตูที่ทำได้ในศึกเอเชียน คัพ 2023 ที่ประเทศกาตาร์ เป็นเจ้าภาพ ล่าสุดด้วย
เชื่อว่าหลังจากจบศึกเอเชียน คัพ ไป ชื่อของ มูซา อัล ตามารี คงได้รับความสนใจเพิ่มขึ้นไม่มากก็น้อย เพราะการเล่นของเขาที่พาจอร์แดน ผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศนั้น ก็น่าตื่นตาตื่นใจเพียงพอที่จะทำให้เขาก้าวหน้า และประสบความเร็จในเส้นทางลูกหนังต่อไปในอนาคต