โนวัก ยอโควิช นักเทนนิสชายมือ 2 โลกจากเซอร์เบียเตรียมบริจาคเงินรางวัลทั้งหมดจากการคว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านองค์กรการกุศลของตัวเอง
โดย ยอโวคิช ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในการแข่งขันเทนนิสชายเดี่ยวโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ด้วยการคว้าเหรียญทองมาครองหลังเอาชนะ คาร์ลอส อัลการาซ มือ 3 โลกจากสเปน 2-0 เซ็ต 7-6 (7-3) และ7-6 (7-2)
จากผลที่เกิดขึ้นทำให้แร็กเกตวัย 37 ปีคว้าเหรียญทองโอลิมปิกแรกของตัวเองไปครอง พร้อมทำสถิติเป็นนักเทนนิสรายที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ที่สามารถทำโกลเดนสแลม (คว้าแชมป์แกรนด์สแลมครบ 4 รายการ และแชมป์โอลิมปิกเกมส์) ในประเภทเดี่ยวทั้งชายและหญิง ต่อจาก สเตฟฟี กราฟ (หญิง – เยอรมนี), อังเดร อากัสซี (ชาย – สหรัฐอเมริกา), ราฟาเอล นาดาล (ชาย – สเปน) และเซเรนา วิลเลียมส์ (หญิง – สหรัฐอเมริกา)
ตามรายงานระบุว่า ยอโควิช ซึ่งซิวเหรียญทองที่ 2 แก่ทัพนักกีฬาเซอร์เบียโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส และเหรียญทองที่ 8 ของประเทศ ได้รับเงินรางวัลจากรัฐบาลบ้านเกิดจำนวน 218,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 7.7 ล้านบาท) จากการคว้าเหรียญทองดังกล่าวซึ่งติดกลุ่มเงินอัดฉีดสูงสุดของประเทศที่เข้าร่วมโอลิมปิกครั้งนี้
เงินอัดฉีดดังกล่าวมีมูลค่าสูงสุดเทียบกับประเทศอื่นๆ ของทวีปยุโรป แต่ยังต่ำกว่า ฮ่องกง ตั้งไว้ 768,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 27 ล้านบาท) แก่ฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก
นอกจากนี้ แชมป์แกรนด์สแลม 24 สมัย ยังได้รับเงินบำนาญตอบแทนเมื่ออายุครบ 40 ปีบริบูรณ์ ซึ่งเหลือระยะเวลาไม่ถึง 3 ปีนับจากปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเจ้าตัวคงไม่ไม่ได้คิดถึงเรื่องเงินบำนาญดังกล่าวมากนักเนื่องจากกวาดเงินรางวัลจากการแข่งขันมากกว่า 143 ล้านปอนด์ (6,450 ล้านบาท) ตลอดอาชีพซึ่งสูงสุดของประวัติศาสตร์เฉพาะกีฬาเทนนิสอยู่แล้ว
ทว่าล่าสุด “กูเรียร์” สื่อท้องถิ่้นของเซอร์เบียระบุว่า แชมป์แกรนด์สแลม 24 สมัยตัดสินใจแล้วว่า จะนำเงินรางวัลทั้งหมดที่ได้จากเหรียญทองไปบริจาคเพื่อช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมผ่านมูลนิธิของเขาซึ่งร่วมก่อตั้งกับภรรยามาตั้งแต่ปี 2007 ที่มุ่งช่วยเหลือเยาวชนที่ด้อยโอกาสด้านการศึกษาด้วยการสร้างโรงเรียน, ปรับปรุงห้องเรียน และให้การสนับสนุนทางการเงิน โดยเฉพาะเด็กในช่วงปฐมวัย