โชว์ฟอร์มได้ดีทีเดียวสำหรับ ยานน์ อูเรล บิสเซค ปราการหลังสูงยาวหน่วยก้านดี วัย 23 ปีของ อินเตอร์ มิลาน ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ และกำลังได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง
ยานน์ อูเรล ลุดการ์ บิสเซค เกิดเมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน 2000 เขาเกิดที่เมืองโคโลญน์ ประเทศเยอรมนี แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็มีเชื้อสายแคเมอรูน อยู่ในตัว
บิสเซค เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุ 4 ขวบ เขาเข้าฝึกฝนกับทีมเยาวชนของ SV Adler Dellbrück จากนั้นพออายุได้ 7 ขวบก็ย้ายไปอยู่กับทีมเยาวชนของ เอฟซี โคโลญน์
ด้วยความที่มีร่างกายสูงใหญ่ตั้งแต่ยังเด็ก ทำให้เขากลายเป็นกองหลังที่โดดเด่น มาแต่ไหนแต่ไร บิเซค ค่อยๆพัฒนาตัวเอง ท่ามกลางความคาดหวังว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักของทีม กระทั่งอายุได้ 16 ปี เขาก็ถูกส่งลงสนามกับทีมชุดใหญ่ ในเกมที่พบกับ แฮร์ธา เบอร์ลิน เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2017 และนั่นก็ทำให้เขาสร้างสถิติเป็น นักเตะโคโลญน์ และนักเตะเยอรมนี คนแรกที่อายุน้อยที่สุดที่ได้ลงเล่นในบุนเดสลีก้า รวมถึงเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 ที่ลงเล่นในบุนเดสลีก้า เป็นรองเพียง นูรี ซาฮิน มิดฟิลด์ตุรกี ที่เคยทำสถิติดังกล่าวไว้สมัยลงเล่นกับ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์
หลังจากนั้น บิสเซค ยังคงได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่องกับ โคโลญน์ อย่างไรก็ตามเขายังคงเป็นนักเตะดาวรุ่ง ที่ต้องการเกมลงเล่นมากกว่าที่เป็นอยู่เพื่อพัฒนาฝีเท้า ทำให้ทีมปล่อยเขาไปให้หลายทีมยืมตัว ไม่ว่าจะเป็น ฮอลสเตียน คีล, โรด้า เจซี, วิตอเรีย กิมาเรส และทีมสุดท้ายคือ อาร์ฮุส ในเดนมาร์ก ก่อนจะเป็น อาร์ฮุส ที่ชื่นชอบในฝีเท้าของเขาอย่างมาก จึงตัดสินใจซื้อขาดมาจาก โคโลญน์ ในฤดูกาล 2022/23
บิสเซค ลงเล่นเป็นแกนหลักของ อาร์ฮุส และโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม จนได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป ก่อนที่เขาจะลงเล่นในเดนมาร์ก ได้เพียงฤดูกาลเดียวเทานั้น ก็เป็น อินเตอร์ มิลาน ในเซเรีย อา อิตาลี ที่จ่ายเงิน 7 ล้านยูโร คว้าตัวเขาไปร่วมทีม
กับอินเตอร์ มิลาน แน่นอนว่าแม้ บิสเซค จะยังคงเป็นนักเตะดาวรุ่ง ไม่ใช่แกนหลักสำคัญเสียทีเดียว แต่เมื่อเขาได้รับโอกาสลงสนาม ก็มักจะทำผลงานได้ดี เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมกับมีจุดเด่นในลูกกลางช่วยทีมได้ทั้งเกมรับ เกมรุก
ในส่วนทีมชาติ แน่นอนว่า บิสเซค โดนเรียกเข้าสู่สารบบกับทีมเยาวชนเยอรมนี ไปเรียบร้อยแล้วทั้งกับทีม ยู-17 ยู-18 ยู-19 และ ยู-21 ซึ่งเขายังคงรอโอกาสจากทีมชาติเยอรมนีชุดใหญ่ รวมถึงมีโอกาสเลือกไปเล่นให้กับทีมชาติแคเมอรูน อีกด้วย
น่าติดตามเหลือเกินสำหรับอนาคตของ ยานน์ อูเรล ลุดการ์ บิสเซค ว่าสุดท้ายแล้วเขาจะพัฒนาตัวเอง และก้าวขึ้นไปประสบความสำเร็จได้ถึงระดับไหน