สตีฟ เคอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส รับเจ็บปวดที่ต้องกลาบเป็นผู้ชมในการแข่งขันเอ็นบีเอรอบชิงชนะเลิศทั้งๆ ที่ในปีที่แล้วพวกเขาคว้าแชมป์มาครอง แต่รับทีมไม่ดีพอที่จะลิ่วรอบไฟนอลส์
โดย วอร์ริเออร์ส แชมป์เก่าทำผลงานได้น่าผิดหวังในฤดูกาลนี้หลังพวกเขาไม่สามารถป้องกันแชมป์ได้ด้วยการจบเส้นทางในรอบรองชนะเลิศของสายตะวันตกเหตุพ่ายต่อ แอลเอ เลเกอร์ส 2-4 เกม
ในฤดูกาลที่ผ่านมา “สะพานทอง” เจอปัญหารุมล้อมากมายทั้งการที่ทั้งทีมต่างพร้อมใจกันฟอร์มตกอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงปัญหาผู้เล่นหลักบาดเจ็บซึ่งตัวสำรองไม่สามารถขึ้นมาทดแทนได้ และต้องชวดช่วยทีมเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว อย่างเช่นในกรณีของ แอนดรูว์ วิกกินส์ เพาเวอร์ฟอร์เวิร์ดคนสำคัญที่หายหน้าจากทีมไปหลายเดือน
ล่าสุด เคอร์ ซึ่งโดนวิจารณ์อย่างหนักเรื่องผลงานของทีมที่ออกมา ระบุถึงรอบไฟนอลส์ซึ่งเป็นการชิงชัยกันระหว่าง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ กับ ไมอามี ฮีต โดยชี้เป็นสิ่งที่เจ็บปวดในการต้องเป็นผู้ชมแทนที่จะได้ป้องกันแชมป์ ถึงกระนั้นก็รู้ดีว่าทีมของเขาไม่ดีพอที่จะมาถึงจุดนี้
“ในด้านหนึ่งผมก็รู้สึกเจ็บปวด (ที่ไม่ได้เข้ารองชิงปีนี้) ผใหวังตลอดว่าทีมจะทำได้ ผมเป็นโค้ชให้ทีมนี้เป็นปีที่ 9 และเราพลาดเพลย์ออฟแค่ 2 ครั้ง และ 6 จาก 7 ปีที่เข้าเพลย์ออฟ เราก็เข้าไปเล่นรอบชิงชนะเลิศได้หมด ดังนั้นมันก็พูดได้ว่านี่เป็นปีแรกที่เราไม่ได้เข้ารอบชิง”
“แต่เอาจริงๆ ใครจะพูดแบบนั้นได้เต็มปาก? ผมก็ไม่ได้มาเจียมเนื้อเจียมตัวอะไรนะ แต่การเข้ารอบชิงมันต้องใช้หลายๆ อย่างรวมกัน ต้องใช้ความสามารถ ต้องใช้ดวงด้วย และเราก็โชคดีที่มีสต๊าฟเก่งๆ หลายคน เราทำงานกันอย่างหนัก แต่งานโค้ชมันก็ยังมีอีกหลายๆ อย่างที่ต้องทำ เช่น คุณต้องโค้ชผู้เล่นแบบไหน? ผู้เล่นที่มีความสามารถแค่ไหน? และพวกนั้นใจสู้แค่ไหน?’ แต่ต้องยอมรับว่าเราโชคดีที่มีกลุ่มผู้เล่นที่สุดยอดจริงๆ”
“ดังนั้น แม้ว่าปีนี้เราจะพลาดไป และการที่ทำได้แค่นั่งดูเกมรอบชิงมันก็ไม่ใช่อะไรที่สนุกนัก แต่ในเวลาเดียวกัน เราก็ไม่สมควรจะไปอยู่ตรงนั้นจริงๆ คุณว่าจริงไหมหละ คือเราไม่ดีพอจริงๆ และผมก็ยอมรับเรื่องนั้นได้ และมองว่าเราต้องทำมันให้ดีขึ้น”