กลับมาสู่ฟอร์มที่ดีอีกครั้งสำหรับ อองตวน กรีซมันน์ ดาวเตะแนวรุกทีมชาติฝรั่งเศส หลังทำ 2 แอสซิสต์ ช่วยให้ทีมเอาชนะ อังกฤษ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ฟุตบอลโลก 2022 ทั้งยังก้าวขึ้นไปเป็นผู้ทำแอสซิสต์ สูงสุดในฟุตบอลโลกหนนี้เรียบร้อยด้วยจำนวน 3 ประตู
อองตวน กรีซมันน์ เกิดเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 1991 ที่เมืองมาคอน ประเทศฝรั่งเศส หากจะพูดถึงความเกี่ยวกับฟุตบอลทางสายเลือดนั้น ต้องย้อนไปที่ อมาโร โลเปส คุณตาของเขา ซึ่งเคยเป็นอดีตนักฟุตบอลอาชีพชาวโปรตุเกสของทีม ปากอส เดอ เฟอร์ไรร่า แต่ในเวลาต่อมาได้ย้ายตาม คาโรลินา คุณยายมาตั้งรกรากในฝรั่งเศส ปี 1957 นั่นทำให้ กรีซมันน์ มักจะใช้เวลาในช่วงวันหยุดของเขาไปพักผ่อนที่ ปากอส เดอ เฟอร์ไรร่า ประเทศ โปรตุเกส
กรีซมันน์ ได้รับสายเลือดจากคุณตามาแบบเต็มๆ เขาเป็นเด็กตัวเล็กที่ชื่นชอบการเล่นฟุตบอล ตอน 6 ขวบเขาได้เข้าเป็นนักเตะเยาวชนของ มาคอน สโมสรท้องถิ่นละแวกบ้าน ซึ่งระหว่างที่ฝึกฝนอยู่ที่นั่น 8 ปี เขาได้พัฒนาตัวเอง และพยายามไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรดังๆมากมาย แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาตลอด เนื่องจากเป็นคนตัวเล็ก และมีน้ำหนักตัวที่เบาจนเกินไป
แต่แล้ววันหนึ่งในปี 2005 ขณะที่เขากำลังทดสอบฝีเท้ากับ มงต์เปลลิเยร์ กรีซมันน์ได้ลงเล่นเกมกระชับมิตรกับเยาวชนของ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และโช์วฟอร์มได้อย่างโดดเด่น จนเป็นที่สนใจของหลายๆทีม สุดท้ายเป็น เรอัล โซเซียดัด ในสเปนซึ่งมาร่วมสังเกตการณ์ด้วยเช่นกัน ได้ยื่นข้อเสนออย่างจริงจังให้เขาไปทดสอบฝีเท้ากับทีม ที่สเปน และกรีซมันน์ ก็ใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ ก่อนจะได้รับข่าวดีจาก โซเซียดัด ว่าสโมสรตัดสินใจยื่นสัญญาเยาวชนให้กับเขา
4 ปีในรั้วเยาวชนของ โซเซียดัด กรีซมันน์ พัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างโดดเด่น แม้ตัวจะเล็ก แต่ก็เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแนวรุก เขามีทั้งทักษะ ความเร็ว ความคล่องตัว และวิสัยทัศน์ ที่ยอดเยี่ยมในการทำเกม หรือจะทำประตูเองก็ได้ ทำให้เมื่ออายุ 18 ปี เขาถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ เป็นแกนหลักสำคัญที่ช่วยทำให้ทีมคว้าแชมป์ลีกรองของสเปน ในฤดูกาล 2009/10 เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในลาลีก้า สเปน
หลังจากนั้น กรีซมันน์ ยังคงทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง แม้จะขึ้นมาเล่นในลาลีก้า แต่เขาก็ช่วยทีมโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดอีก 4 ฤดูกาล โดยลงสนามไป 201 นัด ยิงไปทั้งหมด 52 ประตู ก่อนจะเป็น แอตเลติโก มาดริด ที่ทุ่มเงินกว่า 30 ล้านยูโร ดึงตัวเขาไปร่วมทีมในฤดูกาล 2014/15
แน่นอนว่า กรีซมันน์ กลายเป็นหัวใจหลักสำคัญที่ช่วยให้ “ตราหมี” ประสบความสำเร็จในช่วง 5 ฤดูกาลที่เขาลงเล่น โดยคว้าแชมป์ยูโรป้า ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย, แชมป์ ซูเปอร์โคปา 1 สมัย และรองแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย
กระทั่งฤดูกาล 2019/20 กรีซมันน์ ตัดสินใจอำลาทีมที่เขาผูกพันธ์ ย้ายมาสู่ บาร์เซโลนา ด้วยค่าตัวสูงลิบถึง 120 ล้านยูโร แต่การย้ายทีมครั้งนี้ของเขากลับไม่น่าประทับใจเท่าไหร่นัก เมื่อ กรีซมันน์ ฟอร์มตกอย่างน่าใจหาย แถมฟอร์มโดยรวมของ บาร์เซโลนา ก็ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ดี ทำให้ 2 ฤดูกาลเก็บมาได้เพียงแชมป์ โคปา เดล เรย์ เท่านั้น
ในฤดูกาล 2021/22 แอตเลติโก มาดริด ตัดสินใจยืมตัว กรีซมันน์ กลับมาช่วยทีมอีกครั้ง พ่วงสัญญาซื้อขาด ซึ่ง กรีซมันน์ เองก็ตัดสินใจมาอยู่ในที่ที่เค้นความสามารถของเขาออกมาได้อย่างเต็มที่ ก่อนจะย้ายทีมกลับสู่ ตราหมี เป็นการถาวรในฤดูกาลล่าสุด และพยายามเรียกฟอร์มกลับมาอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนผลงานกับทีมชาติ กรีซมันน์ ติดทีมชุดใหญ่มาตั้งแต่ปี 2014 แน่นอนว่าเขาคือส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่พาฝรั่งเศส คว้าแชมป์โลกในปี 2018 รวมถึงแชมป์ ยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ปี 2020/21
ขณะนี้ ฝรั่งเศส ยังอยู่ในเส้นทางป้องกันแชมป์ในฟุตบอลโลก 2022 และกรีซมันน์ ที่คืนฟอร์มกลับมาพอดิบพอดี ก็เป็นคีย์แมนสำคัญที่จะช่วยให้ทีมก้าวไปถึงจุดนั้นอย่างแน่นอน