ประวัตินักกีฬา

อีวาน ราคิติช มิลฟิลด์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของ โครเอเชีย

อีวาน ราคิติช

 อีวาน ราคิติช คือหนึ่งในมิดฟิลด์ชื่อดังของวงการฟุตบอลโครเอเชียและยุโรป ที่ตลอดเส้นทางลูกหนัง เขาได้ฝากผลงานระดับมาสเตอร์พีซไว้กับหลายสโมสรชั้นนำ ทั้งยังเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของทีมชาติโครเอเชียชุดประวัติศาสตร์ที่ทะลุเข้าชิงฟุตบอลโลกปี 2018 และในวัย 37 ปี ฤดูกาล 2024/25 ที่กำลังจบลงอาจเป็นซีซั่นสุดท้ายของเขาในฐานะนักเตะอาชีพ

 อีวาน ราคิติช เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม ปี 1988 ที่เมืองไรน์เฟลเดน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยครอบครัวของเขาเป็นชาวโครเอเชียที่อพยพจากเขตบอลข่านตั้งแต่ช่วงสงครามกลางเมืองยูโกสลาเวีย เขาเติบโตในเมืองเมอห์ลิน โดยมีพ่อผู้เคยเป็นนักฟุตบอลสมัครเล่นและพี่ชายเป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวเข้าสู่เส้นทางลูกหนังอย่างจริงจัง ด้วยฝีเท้าที่โดดเด่นตั้งแต่วัยเยาว์ เขาเข้าสู่ระบบเยาวชนของ เอฟซี บาเซิล สโมสรชั้นนำของสวิตเซอร์แลนด์ และเปิดตัวในทีมชุดใหญ่ได้ในฤดูกาล 2005/06

ผลงานของราคิติชกับบาเซิลเข้าตายักษ์ใหญ่ในยุโรป และในปี 2007 เขาตัดสินใจย้ายไปเล่นในบุนเดสลีกากับ ชาลเก้ 04 ที่ซึ่งเขาได้ประสบการณ์ฟุตบอลระดับสูง และลงเล่นให้ทีมมากกว่า 100 นัด ก่อนจะย้ายมาสร้างชื่ออย่างเต็มตัวกับเซบีญาในปี 2011 ที่สเปน ที่นั่นเขากลายเป็นกำลังหลักในแดนกลาง และถูกแต่งตั้งเป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมา โดยผลงานที่น่าจดจำที่สุดคือการพาเซบีญาคว้าแชมป์ยูโรปาลีกในฤดูกาล 2013/14

ฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นทำให้บาร์เซโลนาเซ็นสัญญาคว้าตัวเขาในปี 2014 และนี่คือจุดเริ่มต้นของช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในอาชีพค้าแข้งของเขา ราคิติชเป็นหนึ่งในฟันเฟืองหลักของยุคทองภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ เอ็นริเก้ โดยลงเล่นร่วมกับแข้งระดับโลกอย่างลิโอเนล เมสซี, ชาบี เอร์นานเดซ และอิเนียสต้า ในปีแรกกับบาร์ซ่า เขาคว้า “ทริปเปิลแชมป์” ทั้งลาลีกา, โกปา เดล เรย์ และยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก โดยเขายิงประตูแรกในรอบชิงแชมเปียนส์ลีก ปี 2015 ที่ชนะยูเวนตุส 3-1 อีกด้วย

ตลอดระยะเวลา 6 ปีที่คัมป์ นู ราคิติชคว้าแชมป์รวม 13 รายการ ก่อนจะย้ายกลับไปเซบีญาในปี 2020 เพื่อกลับมาสวมปลอกแขนกัปตันอีกครั้ง และในฤดูกาล 2022/23 เขาช่วยทีมคว้าแชมป์ยูโรปาลีกได้อีกสมัย นับเป็นโทรฟี่รายการนี้ครั้งที่สองในอาชีพ ต่อมาในต้นปี 2024 เขาตัดสินใจย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับสโมสรอัล-ชาบับในซาอุดีอาระเบีย ก่อนจะกลับมายังบ้านเกิดเพื่อร่วมทีม Hajduk Split ในเดือนกรกฎาคม 2024

 อีวาน ราคิติช

ในระดับทีมชาติ ราคิติชเลือกเล่นให้โครเอเชียแม้จะเกิดและเติบโตในสวิตเซอร์แลนด์ เขาประเดิมสนามในปี 2007 และเป็นตัวหลักต่อเนื่องในรายการใหญ่ทั้งยูโร 2008, 2012, 2016 และฟุตบอลโลก 2014 และ 2018 โดยผลงานที่โดดเด่นที่สุดคือฟุตบอลโลก 2018 ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญทั้งการยิงจุดโทษในรอบน็อกเอาต์ และการประสานงานแดนกลางกับลูก้า โมดริช จนพาโครเอเชียทะลุเข้ารอบชิงชนะเลิศเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ก่อนพ่ายฝรั่งเศส 2-4

 ราคิติซ ลงเล่นให้ทีมชาติทั้งหมด 106 นัด ยิงได้ 15 ประตู ก่อนประกาศอำลาทีมชาติในปี 2020 เพื่อเปิดทางให้แข้งรุ่นใหม่ แม้จะมีข่าวลือเรื่องการแขวนสตั๊ดตามมาในช่วงไม่กี่ปีหลัง แต่ราคิติชก็ยังคงเล่นในระดับสูงกับ Hajduk Split ได้อย่างยอดเยี่ยม จนกระทั่งในวันที่ 19 พฤษภาคม 2025 เขาถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 89 เกมที่ชนะ Rijeka 2-1 พร้อมน้ำตาคลอ ทำให้แฟนบอลหลายคนเชื่อว่านี่คือเกมสุดท้ายในอาชีพของเขา รวมถึงล่าสุด หลายสื่อในโครเอเชียรายงานตรงกันว่า ราคิติชเตรียมประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการในสุดสัปดาห์นี้ โดยเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลจะเป็นการปิดฉากอาชีพนักเตะอย่างเป็นทางการของเขา

แม้ยังไม่มีการยืนยันแต่ อีวาน ราคิติชได้แสดงให้โลกเห็นถึงความยอดเยี่ยมของมิดฟิลด์ที่ไม่เพียงแค่มีเทคนิคและวิสัยทัศน์ แต่ยังเต็มไปด้วยความทุ่มเทให้กับสโมสรและประเทศอย่างแท้จริง หากเขาตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2025 นี้ เขาจะจากไปพร้อมกับความสำเร็จที่ยากจะมีใครมาแทนที่ได้ในวงการฟุตบอลโครเอเชีย

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top