รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด สุดมีความสุขหลังทีมปาดแซงเอาชนะ โอลิมปิก ลียง พร้อมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศฟุตบอลยูฟ่า ยูโรป้า ลีก
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแซงเอาชนะ โอลิมปิก ลียง ที่เหลือ 10 คน 5-4 ท่ามกลางความตื่นเต้นของแฟนบอล เนื่องจากพวกเขาออกนำไปก่อนถึง 2-0 ก่อนที่ทีมเยือนจะมาแซงนำไปได้ 4-2 ต้องเล่นกันจนถึงต่อเวลาพิเศษ ซึ่งทีมปีศาจแดงเอาชนะไป 5-4 รวม 2 นัด ชนะ 7-6
หลังเกม รูเบน อโมริม กุนซือของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดเผยว่าทีมของเขากำลังโฟกัสกับการเล่นในถ้วยยูโรป้า ลีก เพื่อจะต่อยอดคว้าโควต้า ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้า
“ผมดูสารคดีปี 1999 ที่ทีมได้ทริปเปิลแชมป์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ มันเป็นคืนที่ยิ่งใหญ่ ทีมอ่อนล้ากันมาก เราคิดว่ามันจบแล้ว แต่กับที่นี่มันไม่เคยจบง่ายๆ กับที่นี่ทุกอย่างเป็นไปได้ คุณรู้สึกถึงสภาพแวดล้อม ตอนที่เราตามหลัง 4-3 หลังจาก บรูโน่ ยิงลูกโทษ เรารู้สึกว่ามันจะเปลี่ยนเกม”
“เราพยายามส่ง แฮรี แม็กไกวร์ ไปเล่นข้างหน้าเพราะเขาเป็นคนเดียวที่สามารถทำประตูได้จากลูกโหม่ง ค็อบบี เมนู ขาดความคล่องตัวในตอนนี้เพราะเขาเจ็บ แต่เขามีสปีดต้นที่ดี”
“เราพยายามโฟกัสกับ ยูโรปา ลีก และเสี่ยงในบางครั้งกับเด็กๆใน พรีเมียร์ลีก แฟนบอลต้องเข้าใจ เราต้องโฟกัส ยูโรปา ลีก ทุกคนในทีมเชื่อว่ามันสามารถเป็นไปได้ เราจำเป็นต้องมีโชคด้วยในเรื่องของการบาดเจ็บ”
“เสียงเชียร์ในสนามยอดเยี่ยมกว่าที่เคย บางคนเลือกสะสมเสื้อหรือผ้าพันคอ แต่ผมอยากเลือกเก็บเสียงเชียร์ มันยอดเยี่ยมที่สุดในโลก”
“ผมรู้สึกว่าผู้คนต้องออกจากสนามตอนที่เราตามหลัง 4-2 เพราะการจราจร พวกเขาจะต้องโมโหตัวเองแน่ๆ เรารู้ว่าเราโชว์ฟอร์มได้อย่างต่ำต้อย และสมควรโดนวิจารณ์ แต่เราต้องใช้เวลาเพื่อสร้างสิ่งที่พิเศษในซีซั่น”
ด้าน แฮรี แม็กไกวร์ ซึ่งเป็นผู้ยิงประตูชัยพาทีมปีศาจแดงเก็บชัยชนะนัดนี้ได้สำเร็จ ยอมรับว่าการยิงประตูดังกล่าวเป็นเรื่องที่น่าทึ่งอย่างมาก
ผมรู้สึกว่าประตูที่สี่ของพวกเขาเหมือนชกหน้าเรา แต่เรามีโอกาสกลับสู่เกม บอลตกมาถึงผมพอดี และต้องขอบคุณที่ผมทำประตูได้ มันเป็นความรู้สึกที่้น่าทึ่ง”
“แน่นอนว่ามันเป็นเกมที่เหลือเชื่อ เราทำงานกันอย่างหนัก เราคอนโทรลเกมอย่างเต็มที่ในครึ่งหลัง และมีโอกาสได้ประตูที่สาม จากนั้นพวกเขาได้ประตู การตกเป็นรอง 4-2 ในช่วงต่อเวลาพิเศษโดยที่พวกเขาเหลือ 10 คนไม่ดีพอ เราเปิดพื้นที่ให้พวกเขามากไป แต่เราลุยกันสุดเหวี่ยง และแสดงถึงสปิริต”