เจย์เลน บราวน์ ชูตติงการ์ดตัวหลักของ บอสตัน เซลติกส์ ยอมรับว่าผลงานของทีมในเกมพ่าย ไมอามี ฮีต 0-3 รอบขิงชนะเลิศ สายตะวันออก จนตามหลังซีรีส์ 0-3 นั้นเป็นอะไรที่น่าอับอาย ขณะที่ โจ มาซซูลา เฮดโค้ชของทีมยืดอกรับผิดชอบกับฟอร์มที่เกิดขึ้น
โดย เซลติกส์ ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากในการเข้ารอบชิงแชมป์เอ็นบีเอ 2022-23 หรือรอบไฟนอลส์ เนื่องจากตามหลัง ฮีต ไปแล้ว 0-3 เกมในรอบชิงชนะเลิศ ของสายตะวันออก ซึ่งเกมล่าสุดพวกเขาบุกพ่ายขาดลอย 102-128 คะแนน
จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ เซลติกส์ ต้องชนะให้ได้ 4 เกมรวดถึงจะพลิกสถานการณ์เข้ารอบ ซึ่งเป็นเงื่อนไขเดียวกับใน แอลเอ เลเกอร์ส ที่ตามหลัง เดนเวอร์ นักเก็ตส์ 0-3 เกมในรอบชิงชนะเลิศของสายตะวันตก
หลังเกมผู้เล่นวัย 26 ปีซึ่งทำไปเพียง 12 คะแนนในแมตช์ดังกล่าว และมีสถิติชู้ตลงแป้นเพียง 6 จาก 17 ครั้งระบุว่า ผลงานของทีมที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอะไรที่น่าอับอายอย่างมาก “ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มจากตรงไหน มันลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผมรู้สึกเหมือนเราทำให้ฐานแฟนคลับองค์กรตกต่ำ ตัวเองตกต่ำ มันเป็นส่วนรวม เราสามารถชี้นิ้วได้ แต่ในความเป็นจริงมันน่าอาย”
ขณะที่ เจสัน เททัม ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ เซลติกส์ กล่าวว่าขณะนี้ทีมกำลังอยู่ในสถานการณ์ลำบากต่อการเข้ารอบ เห็นได้ชัดว่าเราอยู่ในตำแหน่งที่ยากลำบาก แต่เราต้องมีความภาคภูมิใจ และกลับมาให้ได้”
ส่วน โจ มาซซูลา หัวหน้าผู้ฝึกสอน เซลติกส์ กล่าวว่าขอเป็นคนรับผิดชอบกับผลงานของทีมที่เกิดขึ้น “ผมเป็นคนที่ทำให้ลูกทีมไม่พร้อมจะลงเล่น ผมไม่ได้ดำเนินการตามแผนเกมที่เหมาะสม ผมไม่ได้ทำให้พวกเขามีความคิดที่ถูกต้องในการเตรียมพร้อม และเป็นหน้าที่ของผมที่จะต้องแน่ใจว่าพวกเขาเชื่อมโยงกัน และพร้อมที่จะเล่น แต่ผมไม่ได้ทำอย่างนั้น”
ถึงกระนั้น มาซซูลา ยังเชื่อมั่นว่า ตัวเอง และทีมจะสามารถมีผลงานที่ดีขึ้นได้ “นั่นคือจุดที่ผมต้องดีขึ้น ค้นหาว่าทีมนี้ต้องการอะไรเพื่อให้แน่ใจว่าพวกเขาเชื่อมต่อถึงกัน พวกเขาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อเราก้าวเท้าลงบนสนาม”
ทั้งนี้ในประวัติศาสตร์ของเอ็นบีเอยังไม่มีทีมใดในรอบเพลย์ออฟ หรือรอบชิงชนะเลิศที่พลิกสถานการณ์จากการตามหลังซีรีส์ 0-3 และกลับมาชนะได้ 4-3 แต่อย่างใด