“หากคุณดูเกมคุณจะไม่เห็นบุสเกตส์ แต่ถ้าคุณดู บุสเกตส์ คุณจะเห็นทั้งเกม” นี่คือคำนิยามที่ บิเซนเต เดล บอสเก้ อดีตกุนซือทีมชาติสเปน กล่าวถึง เซอร์จิโอ บุสเกตส์ หนึ่่งในมิดฟิลด์ตัวรับที่ดีที่สุดในโลก
เซอร์จิโอ บุสเกตส์ บูร์กอส เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 1988 ในเมือง ซาบาเดลล์ แค้นคาโตโลเนีย ประเทศสเปน คุณพ่อของเขาคือ คาร์เลส บุสเกตส์ อดีตผู้รักษาประตูตำนานของบาร์เซโลนา นั่นทำให้ บุสเกตส์ ซึ่งมีคุณพ่อเป็นแบบอย่าง คลั่งไคล้ฟุตบอล และชอบเล่นกีฬาตั้งแต่ยังเด็ก จนกระทั่งเข้าร่วมในทีมเยาวชนของสโมสรท้องถิ่น ซีบี บาเดีย ตอนอายุได้ 7 ขวบ
บุสเกตส์ ค่อนข้างพเนจร พอสมควรในช่วงที่ยังเป็นเด็กฝึกหัดนี้ เขาลงเล่นให้กับ บาเดีย เกือบปี ก่อนจะย้ายไปอยู่กกับ ซีอีเอฟ บาร์เบเรีย อันดาลูเซีย ในปี 1996 หลังจากนั้น 3 ปีให้หลัง ก็ถูกทาบทามให้ไปอยู่กับ ยูอี เยดา อีก 4 ปี ก่อนเข้าร่วม ยาบัช เตอร์ราสซา สุดท้ายในอีก 2 ปีต่อมา เขาก็ได้เข้ามาอยู่ในแคมป์เยาวชน ลามาเซีย ของบาร์เซโลนา ปี 2005 ในที่สุด
ณ ที่แห่งนี้ บุสเกตส์ ได้แสดงศักยภาพอันน่าตื่นใจให้กับโค้ชของบาร์เซโลนา ได้เห็น ดูเผินเขาอาจจะเป็นกองกลางที่ธรรมดาทั่วไป แต่ บุสเกตส์ ได้แสดงให้เห็นถึงการครองบอลอันเหนียวแน่น การคุมจังหวะเกมของทีม กระทั่ง 2 ปีต่อมา เขาก็ถูกเลื่อนขึ้นไปเล่นในทีม บาร์เซโลนา เบ ซึ่งขณะนั้นมี เป๊ป กวาร์ดิโอลา ตำนานสโมสรคุมทัพอยู่
บุสเกตส์ กลายเป็นมิดฟิลด์คนโปรดของ กวาร์ดิโอลา ทันที และเมื่อ กวาร์ดิโอลา ถูกจับขึ้นไปกุนซือขัดตาทัพในทีมชุดใหญ่ หลังจาก แฟรงก์ ไรจ์การ์ด ถูกปลด ในปี 2008 กุนซือลูกหม้อของบาร์เซโลนา รายนี้ก็ไม่ลืมที่จะดัน บุสเกตส์ ขึ้นมาฝึกซ้อม และลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ด้วย
บุสเกตส์ ได้ลงเดบิวต์ ในลาลีก้า นัดแรกในเกมที่ บาร์เซโลนา เปิดบ้านเสมอกับ ราซิ่ง ซานตานเดร์ 1-1 แม้ผลงานของทีมจะไม่จบลงด้วยชัยชนะ แต่เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนที่จะมาเบิกสกอร์แรกของตัวเองกับบาร์เซโลนา ได้สำเร็จ ในเกมที่ ถล่ม บาเซิล 5-0 ศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เมื่อ 22 ตุลาคม 2008
หลังจากก้าวขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ได้ไม่กี่เดือน บาร์เซโลนา ก็จัดการต่อสัญญา บุสเกตส์ ในระยะยาวทันทีจนถึง ปี 2013 โดยมีค่าฉีกสัญญาในเวลานั้น 80 ล้านยูโร ก่อนที่ วันที่ 7 มีนาคม 2009 เขาจะสามารถทำประตูแรกในลาลีก้า ในสำเร็จ ในเกมที่ บาร์เซโลนา เปิดบ้านเอาชนะ แอธเลติก บิลเบา 2-0
หลังจากนั้นบุสเกตส์ ยังคงลงเล่นเป็นแกนหลักให้กับ บาร์เซโลนา เรื่อยมา แม้จะมีมิดฟิลด์ชื่อดังมากมายเขามาในทีม โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องแข่งขันแย่งตำแหน่งกับ เซย์ดู เกอิต้า, ยาย่า ตูเร่ แต่สุดท้ายแล้ว บุสเกตส์ ก็กลายเป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สุด จนในเวลาต่อมา เกิดเป็น 3 ประสาน มิดฟิลด์ ซึ่งประกอบด้วย บุสเกตส์ อิเนสตา และชาบี ที่ว่ากันว่า ลงตัว และยอดเยี่ยมที่สุดในโลก นอกจากนั้นยังได้รับเลือกให้กลายเป็น 4 กัปตันของทีมรองจาก ชาบี, อันเดรส อิเนสตา และลิโอเนล เมสซี
ด้วยทีมอันยอดเยี่ยมจนหาทีมใดเปรียบได้ยาก ถึงขนาดถูกเทียบให้เป็นทีม “ต่างดาว” ทำให้ บุสเกตส์ และบาร์เซโลนา คว้าแชมป์มาครองมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ลาลีก้า สเปน 8 สมัย โคปา เดลเรย์ 7 สมัย ซูเปอร์ โคปา 6 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 3 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 3 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 3 สมัย
และด้วยความยอดเยี่ยมของ 3 ประสานในแดนมิดฟิลด์ ซึ่งมี บุสเกตส์ เป็นหนึ่งในนั้น ส่งผลไปถึงทีมชาติสเปน ที่เขานั้นมีส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์ ฟุตบอลโลก ในปี 2010 และ แชมป์ยูโร 2012
“ถ้าไม่มี บุสเกตส์ บาร์เซโลนา และทีมชาติสเปน ก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่าน” ชาบี เป็นอีกคนที่การันตีถึงความสามารถของ บุสเกตส์ ว่าเป็นส่วนสำคัญของทีมอย่างแท้จริง
ปัจจุบันนักเตะบาร์เซโลนา ชุดที่ถูกขนานนามว่า “ต่างดาว” รวมถึงทีมชาติสเปน ชุดแชมป์โลก และแชมป์ยูโร เหลือเพียง บุสเกตส์ คนเดียวเท่านั้น ที่ยังคงอยู่เป็นแกนหลักให้กับทีม โดยในส่วนของทีมบาร์เซโลนา ดูเหมือนจะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับทีมแล้ว เนื่องจากเขาปฏิเสธจะต่อสัญญา และต้องการออกไปหาความท้าทายใหม่ ในช่วงท้ายของการค้าแข้ง ขณะที่ในส่วนของทีมชาติ ศึกฟุตบอลโลก 2022 ก็อาจเป็นทัวร์นาเมนต์ สุดท้ายของเขาเช่นกัน
คงจะดีไม่น้อยหาก บุสเกตส์ ได้อำลาทีมไปด้วยถ้วยแชมป์ และปิดฉากกับทีมอย่างสวยงาม เชื่อว่าแฟนบาร์ซ่า และแฟนบอลทีมชาติสเปน ก็กำลังเอาใจช่วยเช่นกัน
