เดิร์ก เคาท์ ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานนักเตะคนหนึ่งที่แฟน “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ต่างรักใคร่ แม้ตอนค้าแข้งในพรีเมียร์ ลีก เขาจะไม่ได้ประสบความสำเร็จมากนัก ไม่มีแชมป์ถ้วยใหญ่ๆติดมือ แต่เขาก็เป็นคนที่ทุ่มเทให้กับสโมสรยิ่งกว่าใครๆ
เดิร์ก เคาท์ เกิดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 1980 ที่เมือง แคตไวจ์ก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ชายฝั่งทะเล โดยคุณพ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นชาวประมง หาเลี้ยงครอบครัว ขณะที่ เดิร์ก เคาท์ เริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ เขาเข้าร่วมฝึกฝนกับทีม ควิก บอยส์ ในท้องถิ่น ขณะเดียวกัน ก็มักจะชอบออกทะเล กับพ่ออยู่บ่อยๆ ด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่ออายุได้ 11 ขวบ เขาจำเป็นต้องเลือก 2 สิ่งที่เขาชื่นชอบพอๆกัน นั่นก็คือ ทะเล หรือ ฟุตบอล เพราะการทำทั้งสองอย่างควบคู่กันไป ทำให้เขามักจะขาดซ้อมในช่วงกลางสัปดาห์ ซึ่งแน่นอนว่าสุดท้ายเขาเลือกที่จะเดินในเส้นทางที่ต่างออกไปจากคุณพ่อ
“สมัยเด็กๆ ผมชอบเอซี มิลานมาก พวกเขาคว้าแชมป์ทุกอย่างด้วยนักเตะชาวดัตช์เก่งๆ กุลลิท, ฟาน บาสเทน, ไรจ์การ์ด แต่ผมก็รู้เสมอว่า ผมคงไม่ได้ยอดเยี่ยมขนาดนั้น”
“ดูอย่าง (โรบิน) ฟาน เพอร์ซี เขาอาจจะไม่เก่งเท่าครัฟฟ์ แต่เขาเป็นนักเตะแบบที่นักเตะดัตช์ควรมี เขามีทักษะและพรสวรรค์ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่”
“ผมบอกพ่อว่าผมอยากจะเป็นเหมือนเขา เป็นชาวประมง แต่ตอนผมอายุ 11 พ่อบอกผมว่าผมควรอยู่บนแผ่นดิน และพยายามเป็นนักฟุตบอลให้ได้ เขาบอกว่าผมต้องตัดสินใจเรื่องนี้”
เคาท์ ที่เลือกฟุตบอล ลงเล่นให้ ควิกบอย ก่อนที่อายุ 17 ปี จะก้าวขึ้นสู่ชุดใหญ่ และมีแมวมองจาก อูเทรคต์ มาเห็นแววเข้า ทำให้เขาได้ย้ายไปเล่นบนเวทีลีกสูงสุดของ เนเธอร์แลนด์
หลังได้ลงเล่นให้อูเทรคท์ ในเกมกระชับมิตรเพียงแค่ 2 เกม เขาก็ยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมมาครองได้อย่างไม่ยากเย็น และในฤดูกาล 1998 เขาก็ยิงให้ทีมไป 6 ประตูจากการลงเล่นในตำแหน่งริมเส้น แม้จะไม่มากมาย แต่ก็ได้รับคำชมด้วยฟอร์มการเล่นที่ทุ่มเททุกหยด
ฤดูกาลต่อมา เคาท์ ถูกจับให้ขึ้นไปเล่นเป็นศูนย์หน้าอย่างเต็มตัว และก็เหมือนปลดล็อกตัวเขาเอง เมื่อในฤดูกาล 2003 เขายิงได้ถึง 23 ประตู จนได้รับความสนใจจากยักษ์ใหญ่ในลีกไม่ว่าจะเป็น อาแจ็กซ์, พีเอสวี แต่สุดท้ายเขาตัดสินใจที่จะมาอยู่กับ เฟเยนูร์ด
เดิร์ก เคาท์ ก้าวขึ้นมาเป็นดาวยิงแถวหน้าของลีกเนเธอร์แลนด์ทันที ยิงประตูต่อเนื่องฤดูกาลละไม่ต่ำกว่า 20 ประตู โดย 3 ฤดูกาลที่ลงเล่นให้กับ เฟเยนูร์ด เขายิงไปทั้งสิ้น 83 ประตู จาก 122 เกมที่ลงสนาม
ด้วยฟอร์มอันร้อนแรงนี้ทำให้เขาได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ในยุโรปหลายต่อหลายทีม ก่อนที่จะลงเอยกับ ลิเวอร์พูล ที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาแบบไม่ต้องคิด ในฤดูกาล 2006/07
“มีโค้ชและแมวมองมาดูผมอยู่หลายครั้ง” เคาท์กล่าวก่อนเซ็นสัญญา “แต่มีแค่ทีมเดียวที่อยู่ในฝันที่ผมอยากไปเล่น และถ้าสโมสรแห่งนั้นต้องการผม ผมก็จะไป”
ค่าตัว 9 ล้านปอนด์ อาจดูไม่มากเท่าไหร่นัก แต่ เคาท์ก็ถูกคาดหวังจากแฟนบอล ซึ่งเขาก็ตอบแทนความคาดหวังนั้นด้วยการซัดไป 14 ประตู จากการลงสนาม 48 นัดรวมทุกรายการ พร้อมทั้งยังพาลิเวอร์พูล ไปถึงรองแชมป์ ยูฟ่าแชมเปียนส์ ลีก อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ดาวยิงเนเธอร์แลนด์ รายนี้ไม่สามารถพังประตูได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนกับเมื่อครั้งเล่นกับ เฟเยนูร์ด เนื่องจากเขามักจะถูกจับมาเล่นในตำแหน่งริมเส้น แต่ถึงกระนั้นการที่สามารถยิงได้ฤดูกาลละไม่ต่ำกว่า 10 ลูก บางฤดูกาลพุ่งไปถึง 15 ประตู ก็ถือเป็นจำนวนที่น่าทึ่งอยู่เหมือนกัน
อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ เดิร์ก เคาท์ กลายเป็นนักเตะที่แฟนๆต่างรักใคร่ คือความขยัน และการลงมาช่วยเกมรับที่ติดตัวเขามาแต่ไหนแต่ไร จนแฟนๆต่างมอบฉายาให้เขาว่าเป็น “กองหน้าตัวรับ” และนี่คือสิ่งที่หล่อหลอมให้เขากลายเป็นนักเตะสไตล์นี้
เคาท์ คว้าแชมป์กับลิเวอร์พูล เพียงรายการเดียวเท่านั้นนั่นคือ ลีก คัพ ในฤดูกาล 2011/12 ก่อนที่สุดท้ายเขาจะตัดสินใจย้ายออกไปหาความท้าทายใหม่กับ เฟเนร์บาเช ยอดทีมในลีกตุรกี ในฤดูกาลถัดมา ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาคว้าแชมป์ ซูเปอร์ ลีก้า, เตอร์กิช คัพ และ เตอร์กิช ซูเปอร์ คัพ ได้อย่างละ 1 สมัย
ช่วงท้ายของการค้าแข้ง เดิร์ก เคาท์ ย้ายกลับไปเล่นกับทีมที่เขาโด่งดังมาอย่าง เฟเยนูร์ด ในฤดูกาล 2015/16 และ 2016/17 ทำให้เขาร่วมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเนเธอร์แลนด์ และแชมป์ เคเอ็นวีบี คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย สุดท้าย เคาท์ เลือกที่จะไปแขวนสตั๊ดกับ ควิก บอยส์ สโมสรแรกที่ปลุกปั้นเขามา ในฤดูกาล 2017/18
ปัจจุบัน เดิร์ก เคาท์ ผันตัวมารับบท ผู้จัดการทีมกับ เอโด เดน ฮาก ทีมในลีกรอง ฤดูกาล 2022/23 ซึ่งเขาก็พาทีมจบอันดับ 12 แต่นี่ก็เป็นเพียงผลงานแรกเท่านั้น คงต้องรอดูกันต่อไปยาวๆว่า เดิร์ก เคาท์ ในบทบาทใหม่ สุดท้ายจะไปได้สวยหรือไม่
