ดานิอิล เมดเวเดฟ นักเทนนิสชายมือ 3 โลกจากรัสเซีย ระบุว่า การที่มีคู่ปรับคู่ใหม่อย่าง คาร์ลอส อัลคาราซ กับโนวัก ยอโควิช เกิดขึ้นมานั้นส่งผลดีต่อวงการเทนนิสเนื่องจากทำให้มีการพูดถึงมากขึ้น
โดย อัลคาราซ นักเทนนิสมือ 1 โลก และยอโควิช นักเทนนิสมือ 2 โลกถูกยกให้เป็นคู่ปรับคู่ใหม่ของวงการหลังทั้งคู่เบียดแย่งบัลลังก์มือ 1 โลกกันมาตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว
และในปี 2023 ทั้ง อัลคาราซ และยอโควิช ได้ดวลกันในรอบชิงชนะเลิศของรายการใหญ่มาแล้ว 2 ทัวร์นาเมนต์ นั่นก็คือ แกรนด์สแลม วิมเบิลดัน และซินซินเนติ มาสเตอร์ส ซึ่งผลปรากฏว่าทั้งคู่ผลัดกันชนะ และแพ้อย่างละรายการ โดย อัลคาราซ เอาชนะไปใน วิมเบิลดัน ด้วยสกอร์ 3-2 เซ็ต ขณะที่ ยอโควิช มาเอาคืนใน ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ด้วยสกอร์ 2-1 เซ็ต
โดยหลังคว้าแชมป์ ซินซินเนติ มาสเตอร์ส ยอโควิช วัย 36 ปีออกมายอมรับว่า อัลคาราซ วัย 20 ปีคือหนึ่งในคู่แข่งที่รับมือได้ยากที่สุดเนื่องจากมีส่วนผสมของบรรดาผู้เล่นดังทั้ง ราฟาเอล นาดาล และโรเจอร์ เฟเดอเรอร์
ล่าสุด เมดเวเดฟ ผู้เล่นมือ 3 โลกคนปัจจุบันระบุว่าการที่เกิดคู่ปรับอย่าง อัลคาราซ และยอโควิช นั้นส่งผลดีต่อวงการเทนนิส เนื่องจากจะทำให้การแข่งขัน และวงการเป็นที่พูดถึงมากขึ้น “ผมคิดว่าจริงๆ แล้วมันเยี่ยมมาก ผมคิดว่าเป็นเรื่องดีสำหรับเทนนิสที่เรามีผู้เล่น 2 คนนี้ดวลกันเอง อย่างที่ฉันพูด มันเป็นเรื่องราวที่ยอดเยี่ยม มีการพูดว่าเราจะพยายามเอาชนะพวกเขา และห้ามไม่ให้เล่นกัน แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าไม่ได้ทำให้ผมหงุดหงิดเลย เพราะผมพูดเสมอว่าบางครั้งเราก็ถูกประเมินเกินจริง ประเมินต่ำเกินไป ถูกต้อง ซึ่งปกติแล้วจะอยู่ในโซเชียลมีเดีย ผมคิดว่านั่นเป็นเรื่องปกติที่เราพูดถึงพวกเขา”
ทั้งนี้ เมดเวเดฟ มีดีกรีเป็นอดีตแชมป์ ยูเอส โอเพ่น 1 สมัยเมื่อปี 2021 พร้อมเป็นโทรฟี่แกรนด์สแลมรายการเดียวในอาชีพของเจ้าตัว ซึ่งในปีนี้เจ้าตัวมีลุ้นแชมป์ดังกล่าวเป็นสมัยที่ 2 หลังสามารถผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศทว่าสุดเขาไปพ่ายต่อ ยอโควิช แบบขาดลอย 0-3 เซ็ต