เลบรอน เจมส์ ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส ออกมาวิจารณ์ผู้ตัดสินหลังไม่ยอมให้ฟาวล์ในช่วงท้ายเกมก่อนสุดท้ายเป็นฝ่ายพ่าย บอสตัน เซลติกส์ ช่วงต่อเวลาพิเศษ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงท้ายของควอเตอร์ที่ 4 ในเกมที่ เลเกอร์ส บุกเยือน เซลติกส์ ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่เสมอกันอยู่ที่สกอร์ 105-105 คะแนน ซึ่งทีมเยือนเป็นฝ่ายได้บุก
โดย “คิงเจมส์” พาบอลแหวกผู้เล่นของ เซลติกส์ ถึง 4 คนในการฝ่าเข้าไปเพื่อจะขึ้นเลย์อัพซึ่งเจ้าตัวจะเอาบอลเข้าห่วงได้แล้วทว่ากลับโดน เจสัน เททัม ฟอร์เวิร์ดคนดังของเจ้าถิ่นใช้มือฟาดไปที่แขน ทำให้เสียจังหวะและชู้ตไม่ลง
และหลังจากการโดนตีมือดังกล่าว เจมส์ จะพยายามไปฟ้องผู้ตัดสินว่าเขาโดนทำฟาวล์ ทว่าเชิ๊ตดำกลับไม่ได้เป่า และทำให้ทั้งคู่เสมอกันในเวลาปกติ 105-105 คะแนนต้องไปสู้กันในช่วงต่อเวลาพิเศษ
ก่อนสุดท้ายจะเป็น เซลติกส์ ที่แซงกลับมาเอาชนะไปได้ 125-121 คะแนน ส่งผลให้พวกเขามีสถิตเพิ่มเป็นชนะ 36 นัด และแพ้ 15 นัดอยู่ในตำแหน่งจ่าฝูงของสายตะวันออก ส่วน เลเกอร์ส มีสถิติชนะ 23 นัด และแพ้ 27 นัดอยู่ในอันดับ 13 ของสายตะวันตก
หลังการแข่งขัน เจมส์ ที่ทำคนเดียวถึง 41 คะแนน 9 รีบาวด์ และ 8 แอสซิสต์ ให้สัมภาษณ์จวกผู้ตัดสินว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ทีมแพ้ในแมตช์นี้ “มันมีการสัมผัสตัว ในช่วงเวลาระหว่างเกม เราไม่เห็นว่าทำไมถึงไม่ได้ฟาวล์ ทีมงานผู้ตัดสินพลาดในจังหวะนี้ ผมไม่เข้าใจ (ว่าทำไมไม่ได้ฟาวล์) ผมไม่เข้าใจว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ และผมดูบาสเก็ตบอลทุกวัน ผมดูเกมเหล่านี้ทุกวัน และผมไม่เห็นว่ามันจะเกิดขึ้นกับใครเลย มันแปลกมาก”
“ผมหมายถึง ผมรู้วิธีส่งบอลเข้าตะกร้า เมื่อผมพูดว่า ผมไม่ใช่ผู้ทำประตู ผมพูดในแง่ที่ว่า มันไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่กำหนดตัวผม แต่มีข้อโต้แย้งอยู่”
ขณะที่ แอนโธนี เดวิส ฟอร์เวิร์ดร่างยักษ์ เลเกอร์ส ออกโรงโวยว่าทีมของเขาโดนโกงจากการตัดสินของกรรมการดังกล่าว “วันนี้เราโดนโกง มันเป็นการฟาวล์ที่โจ่งแจ้งมากๆ”