โรแบร์ ปิแรส คือหนึ่งในนักฟุตบอลระดับตำนานของวงการลูกหนังฝรั่งเศสและสโมสรอาร์เซนอล ที่มีสไตล์การเล่นอันสง่างามและเทคนิคแพรวพราว เขาได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในปีกซ้ายที่ดีที่สุดของยุค 2000s โดยเฉพาะในช่วงที่ค้าแข้งกับทีม “ปืนใหญ่” ซึ่งเขามีส่วนสำคัญในการพาสโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายในฤดูกาล 2003/04 และกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลทั่วโลก
โรแบร์ เอมมานูเอล ปิแรส เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ค.ศ. 1973 ที่เมืองแร็งส์ ประเทศฝรั่งเศส พ่อของเขาเป็นชาวโปรตุเกส ส่วนแม่เป็นชาวสเปน ครอบครัวของเขาเป็นครอบครัวผู้อพยพที่มีฐานะปานกลาง และฟุตบอลคือสิ่งที่หล่อหลอมชีวิตของเขาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเริ่มเล่นฟุตบอลกับสโมสรท้องถิ่นในวัยเพียง 7 ขวบ ก่อนจะได้รับการทาบทามเข้าสู่ศูนย์ฝึกเยาวชนของสโมสรเม็ตซ์ในปี 1989 เมื่ออายุได้ 15 ปี
ปิแรสพัฒนาฝีเท้าอย่างรวดเร็ว และได้เดบิวต์ในทีมชุดใหญ่ของเม็ตซ์ในปี 1993 ด้วยวัยเพียง 20 ปี เขาใช้เวลาอยู่กับเม็ตซ์นานถึง 6 ฤดูกาล ลงเล่นไป 162 นัด ยิงได้ 43 ประตู และกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่โดดเด่นที่สุดของสโมสร โดยมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ Coupe de la Ligue ในฤดูกาล 1995/96 หลังจากนั้นชื่อของเขาก็เริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงการฟุตบอลฝรั่งเศส
ในปี 1998 หลังจากคว้าแชมป์โลกกับทีมชาติฝรั่งเศสที่บ้านเกิด ปิแรสก็ย้ายไปอยู่กับโอลิมปิก มาร์กเซย แม้ผลงานของทีมจะไม่สม่ำเสมอ แต่ฝีเท้าของเขาก็ยังคงน่าประทับใจ จนทำให้ในปี 2000 สโมสรอาร์เซนอล ภายใต้การคุมทีมของอาร์แซน เวนเกอร์ ตัดสินใจคว้าตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัวราว 6 ล้านปอนด์ เพื่อแทนที่มาร์ก โอเวอร์มาร์ส ที่ย้ายไปบาร์เซโลนา
การมาของปิแรสถือเป็นการยกระดับแนวรุกของอาร์เซนอลอย่างแท้จริง แม้จะต้องใช้เวลาปรับตัวในฤดูกาลแรก แต่เขาก็กลายเป็นกำลังหลักในแนวรุกของทีมในช่วงยุคทอง เขามีบทบาทสำคัญในการพาอาร์เซนอลคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาล 2001/02 และฤดูกาล 2003/04 ซึ่งทีมชุดนั้นได้ฉายาว่า “The Invincibles” จากการไม่แพ้ใครเลยตลอดฤดูกาล โดยปิแรสเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุด ยิงได้ถึง 14 ประตูในลีก
เขาลงเล่นให้อาร์เซนอลทั้งหมด 284 นัด ยิงได้ 84 ประตู และคว้าแชมป์เอฟเอคัพ 2 สมัย ในปี 2003 และ 2005 นอกจากฝีเท้าที่แพรวพราวแล้ว ปิแรสยังมีความสามารถในการประสานงานกับผู้เล่นแนวรุกอย่างเธียร์รี อองรี, เดนนิส เบิร์กแคมป์ และเฟรดริก ลุงเบิร์ก ได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นหนึ่งในทีมเวิร์กที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก
หลังจากหมดสัญญากับอาร์เซนอลในปี 2006 ปิแรสย้ายไปอยู่กับบียาร์เรอัลในลาลีกา สเปน โดยอยู่กับทีม 4 ฤดูกาล และกลับมาเล่นในพรีเมียร์ลีกอีกครั้งกับแอสตัน วิลลาในช่วงสั้นๆ ก่อนจะตัดสินใจแขวนสตั๊ดในปี 2011 ด้วยวัย 37 ปี
ในระดับทีมชาติฝรั่งเศส ปิแรสติดทีมชาติไปทั้งหมด 79 นัด ยิงได้ 14 ประตู และมีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1998 และแชมป์ยูโร 2000 แม้ว่าในฟุตบอลโลกปี 1998 เขาจะไม่ได้ลงเล่นเพราะอาการบาดเจ็บ แต่ในยูโร 2000 เขาก็มีบทบาทสำคัญ โดยเฉพาะการแอสซิสต์ให้ ดาวิด เทรเซเก้ต์ ยิงประตูชัยในรอบชิงชนะเลิศ
หลังจากเลิกเล่น ปิแรสไม่ได้เดินสายเป็นผู้จัดการทีมเหมือนนักเตะดังรายอื่นๆ แต่ยังคงเกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอล โดยทำหน้าที่เป็นทูตให้กับอาร์เซนอล และมีบทบาทในกิจกรรมการกุศล รวมถึงรับหน้าที่เป็นนักวิเคราะห์ฟุตบอลในรายการต่างๆ ปัจจุบันเขายังคงปรากฏตัวตามสื่อและงานของสโมสรอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในฐานะตำนานของ “เดอะ กันเนอร์ส” ที่แฟนบอลยังคงรักและจดจำเขาเสมอ
ชื่อของโรแบร์ ปิแรส ยังคงเป็นหนึ่งในบุคคลที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของอาร์เซนอลและวงการฟุตบอลฝรั่งเศสอย่างไม่ต้องสงสัย
