เดรย์มอนด์ กรีน ฟอร์เวิร์ดตัวเก๋า โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส รับไม่แน่ใจว่าความสัมพันธ์ของตัวเองกับ จอร์แดน พูล จะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่หลังตัวเองต่อยเข้าที่ใบหน้าระหว่างการฝึกซ้อม
โดยเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนเกิดข่าวใหญ่ของวงการบาสเก็ตบอล เอ็นบีเอ เมื่อ กรีน ได้บันดาลโทสะต่อไปที่ใบหน้าของ พูล ดาร์ดรุ่นน้องร่วมสังกัดระหว่างการฝึกซ้อมของ วอร์ริเออร์ส ช่วงพรีซีซั่น
จนสุดท้ายบรรดาเพื่อนร่วมทีม “สะพานทอง” ต้องออกมาแยกทั้งคู่ออกจากกัน ขณะที่ทางสต๊าฟก็ต้องยกเลิกการฝึกซ้อมในวันดังกล่าวไป ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมดก็ถูกบันทึกผ่านกล้องวงจรปิด และได้รับการเผยแพร่ออกมาผ่านสื่อด้วย
หลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผู้เล่นวัย 32 ปีก็ได้ขอโทษทั้ง พูล รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจากเรื่องฉาวดังกล่าว พร้อมออกมาแถลงการณ์ขอโทษผ่านสื่ออีกครั้ง ขณะที่ วอร์ริเออร์ส ได้หารือถึงบทลงโทษของผู้เล่นรายนี้
ในตอนแรกบรรดาสื่อคาดว่ากรีนน่าจะโดนลงโทษด้วยการโดนแบน หรืออาจะร้ายแรงจนถึงขึ้นโดนเทรดออกจากทีมโดยมี แอลเอ เลเกอร์ส สนใจคว้าตัว
อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้ว สตีฟ เคอร์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน วอร์ริเออร์ส ยืนยันว่าทีมจะไม่มีการลงโทษแบนกรีน แต่อย่างใด และจะเป็นการสั่งปรับเงินแทน และผู้เล่นรายนี้จะมีส่วนร่วมกับทีมในฤดูกาล 2022-23 อย่างแน่นอน
ขณะที่ทางฝั่งของ พูล เองนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ หลังจากเกิดเรื่องฉาวดังกล่าว อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าการ์ดวัย 23 ปีรายนี้ไม่ยอมยกโทษให้กับกรีนแต่อย่างใด นอกจากนั้นเขาเตรียมที่ต่อสัญญากับ วอร์ริเออร์ส ออกไปในเร็วๆ นี้เพื่อเป็นการกันท่าไม่ให้กรีนได้รับสัญญาฉบับใหม่ เนื่องจากมีรายงานเพิ่มเติมว่า “สะพานทอง” สามารถขยายสัญญาผู้เล่นได้เพียง 1 จาก 2 คนนี้เท่านั้น
จนล่าสุดกรีน ให้สัมภาษณ์ถึงความสัมพันธ์ของตัวเองกับ พูล โดยไม่แน่ใจว่าจะสามารถทำให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมได้หรือไม่ “ผมไม่แน่ใจ อย่างที่ผมพูดไปก่อนหน้านี้ นั่นไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม และผมก็ไม่คิดว่าจะมีความเกี่ยวข้องมากด้วย”
“มันค่อนข้างตรงไปตรงมา เราทั้งคู่รู้วิธีเล่นบาสเก็ตบอล และนั่นเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเรา เราได้รับค่าจ้างเพื่อทำงาน และเราจะมาทำหน้าที่นั้นอย่างสุดความสามารถ เราต้องการชนะต่อไป ดังนั้นเราจะทำในสิ่งที่เราต้องทำเพื่อชัยชนะ”
“ตราบใดที่เราก้าวไปข้างหน้า จอร์แดน เป็นมืออาชีพ ผมเป็นมืออาชีพ เรามีงานต้องทำ เราทั้งคู่ต่างมีประสบการณ์มากมายในการคว้าชัยชนะมาตลอดชีวิตของเรา และเรารู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้น ดังนั้นเราจะทำอย่างนั้น สิ่งที่ต้องทำเพื่อชนะ”