แม้ในระดับสโมสรจะไม่ได้เป็นตัวหลักของเชลซี เสียทีเดียว แต่กับทีมชาติสหรัฐอเมริกา เพลย์เมกเกอร์หนุ่มจอมเทคนิกอย่าง คริสเตียน พูลิซิช ถือเป็นนักเตะคนสำคัญ และเป็นหัวใจหลักในแนวรุกของทีม
คริสเตียน เมต พูลิซิช เกิดเมื่อวันที่ 18 กันยายน 1998 ที่เมืองเฮอร์ชีย์ รัฐเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา โดยคุณพ่อ และคุณแม่ของเขาพบรักกันระหว่างเป็นนักฟุตบอลให้กับมหาวิทยาลัย จอร์จ เมสัน ซึ่งเวลาต่อมาคุณพ่อได้กลายเป็นโค้ชของทีมระดับเยาวชน และ พูลิซิช ก็เป็นเด็กที่ชื่นชอบฟุตบอลเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม คุณพ่อของพูลิซิช เคยพยายามที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเขาออกจากฟุตบอลเหมือนกัน เพราะต้องการพิสูจน์ว่าลูกชายนั้นชื่นชอบ และต้องการจะเดินในเส้นทางนี้จริงๆ ก่อนจะเริ่มสนับสนุนอย่างเต็มตัว
“เราเกือบจะผลักเขาไปในทิศทางอื่นที่ไม่ใช่ฟุตบอล เพราะผมต้องการให้แน่ใจว่าเขากำลังตัดสินใจ เลือกในสิ่งที่ต้องการ ก่อนที่จะบังคับให้เขาฝึกฝน” คุณพ่อของพูลิซิช กล่าว
เมื่ออายุได้ 6 ขวบ พูลิซิช จำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อังกฤษชั่วคราว เนื่องจากคุณแม่ได้รับทุนการศึกษาให้ไปทำงานในโครงการแลกเปลี่ยนการสอนเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งทำให้เขาได้มาฝึกฝนกับทีมเยาวชน บรัคเลย์ ทาวน์ และลิ้มรสการแข่งขันฟุตบอลครั้งแรก
แม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ พูลิซิช ก็ได้รับประสบการณ์ฟุตบอลอันล้ำค่ากลับไป ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็ได้มีโอกาสร่วมทีม มิชิแกน รัช และ พีเอ คลาสซิคส์ ในเวลาต่อมา
พูลิซิช ใช้เวลากว่า 7 ปี กับพีเอ คลาสซิคส์ เขามักจะถูกจับให้ไปอยู่ในทีมที่มีแต่เด็กที่อายุมากกว่า รวมถึงมีรูปร่างสูงใหญ่กว่า ทำให้เขาจำเป็นต้องฝึกสกิล ต่างๆเพื่อเอาตัวรอด
“เมื่อตอนนั้น ผมเป็นนักเตะที่ตัวเล็กที่สุด ผมไม่สามารถใช้ทักษะทางกายภาพของผมได้ ผมจะต้องเอาชนะพวกเขาด้วยใจ” พูลิซิช เล่าย้อนวัยเด็ก
ด้วยฝีเท้าและพรสวรรค์ที่มี ทำให้ในปี 2014 พูลิซิช เป็นดาวรุ่งที่หมายต่อของหลายทีมในยุโรป ก่อนจะเป็น ดอร์ตมุนด์ ที่ดึงตัวเขามาร่วมทีมได้อย่างไม่มีปัญหาเรื่องเวิร์กเพอร์มิต เนื่องจากคุณปู่ของพูลิซิช นั้นมีเชื้อสายมาจากโครเอเชีย
หลังจากลงเล่นกับทีมเยาวชนได้ไม่นาน พูลิซิช ก็ได้รับสัญญาอาชีพกับดอร์ตมุนด์ ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2015 และได้ประเดิมสนามให้กับสโมสรในเกมที่เอาชนะเอฟซี อิงโกลสตัดท์ 2-0 เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2016
พูลิซิช พัฒนาฝีเท้าได้อย่างโดดเด่น และทำประตูได้ต่อเนื่อง ก่อนที่ในปี 2019 เขาจะถูกเชลซี ทุ่มเงินถึง 58 ล้านปอนด์ ดึงตัวไปร่วมทีม แต่ทั้งนี้ยังอยู่ช่วยดอร์ตมุนด์ต่อในช่วงที่เหลือของฤดูกาล 2018–19 และการย้ายทีมครั้งนี้ทำให้ พูลิซิช เป็นนักเตะอเมริกันที่มีค่าตัวแพงที่สุด และเป็นนักเตะที่แพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของดอร์ตมุนด์ รองจากอุสมาน เดมเบเล่
ตลอดเวลาที่ลงเล่นให้กับดอร์ตมุนด์ 4 ฤดูกาล พูลิซิช ยิงรวมไป 19 ประตูจากการลงสนาม 127 นัด ทั้งคว้าแชมป์ เดเอฟเบ โพคาล ฤดูกาล 2016/17 อีกด้วย
หลังจากย้ายมาอยู่กับเชลซี พูลิซิช อาจจะยังไม่ได้เป็นตัวหลักที่ได้ลงเล่นในทุกเกม แต่ก็ถือเป็นนักเตะฝีเท้าจัดจ้านคนหนึ่งที่มักจะยิงประตู หรือลงมาสร้างความแตกต่างให้ทีมได้อยู่เสมอ โดยเขาอยู่กับทีมจนปัจจุบันนี้เป็นเวลา 4 ฤดูกาลแล้ว ทำไป 26 ประตู จากการลงสนาม 133 นัด ทั้งยังคว้าแชมป์มากมายไม่ว่าจะเป็น ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2020/21, ยูฟ่า ซูเปอร์คัพ 2021, ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2021
ขณะที่ในส่วนทีมชาติแน่นอนว่า พูลิซิช ถือเป็นผู้เล่นพรสวรรค์คนสำคัญของทีม ที่จะขาดไปไม่ได้ เขาติดทีมชุดใหญ่ตั้งแต่ปี 2016 พา สหรัฐอเมริกา คว้าแชมป์ คอนนคาเคฟ เนชั่นส์ ลีก 2019/20 อีกด้วย
ล่าสุด พูลิซิช เพิ่งเป็นฮีโร่ซัดประตูชัยในฟุตบอลโลก 2022 ช่วยให้สหรัฐอเมริกา เฉือน อิหร่าน 1-0 ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ
ด้วยความสำคัญและผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ เชื่อเหลือเกินว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ในสถานะไหน หรือทีมใดเขาจะยังเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมชาติสหรัฐอเมริกาไปอีกยาวนาน