คริส เวคลิน คว้าชัยชนะนัดแรกในศึกชิงแชมป์โลกที่ครูซิเบิลเมื่อฤดูกาลล่าสุด พร้อมสร้างผลงานสุดประทับใจทะลุถึงรอบก่อนรองชนะเลิศ ก่อนที่ฝันจะหยุดลงด้วยน้ำมือของเจ้าของแชมป์อย่าง จ้าว ซินถง แต่ผลงานอันยอดเยี่ยมครั้งนี้ก็ได้เติมเชื้อไฟให้เขามุ่งมั่นสู่ความสำเร็จมากยิ่งขึ้นในอนาคต
เวคลินเปิดหัวด้วยฟอร์มสุดเฉียบ เอาชนะ นีล โรเบิร์ตสัน แชมป์โลกปี 2010 ได้ในรอบแรก และยังไล่ถล่มมือต้นๆของโลกอย่าง มาร์ก อัลเลน ไปด้วยสกอร์ขาดลอย 13-6 ในรอบ 16 คนสุดท้าย ก่อนจะพ่ายให้กับจ้าว ซินถง 5-13 เฟรม ในรอบก่อนรองฯ แต่ตลอดเส้นทางของเขาก็มีไฮไลต์สำคัญมากมาย โดยเฉพาะช็อตเสี่ยงเล่นเหลืองสุดกล้าที่สร้างความประทับใจจนทำให้อดีตแชมป์โลก 6 สมัยอย่าง สตีฟ เดวิส ถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่
“ตอนที่แฮเซล (เออร์วิน) ถามผมในสตูดิโอว่ารู้สึกยังไงกับช็อตนั้น ผมยอมรับเลยว่า น้ำตามันไหลออกมา มันเป็นสิ่งที่คุณเห็นแล้วรู้เลยว่ากดดันแค่ไหน แล้วเขากล้าเล่นแบบนั้น มันเหลือเชื่อจริงๆ” เดวิสกล่าว
เวิลด์ สนุกเกอร์ ทัวร์ ได้พูดคุยกับเวคลิน พร้อมกับทำบทความ โดย เวคลิน ได้เปิดใจย้อนถึงฟอร์มอันยอดเยี่ยมในรายการนี้ พร้อมเผยเป้าหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นในฤดูกาลใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้น
ย้อนกลับไปแมตช์แรกกับนีล โรเบิร์ตสัน คุณนำห่างถึง 7-2 ก่อนจะโดนไล่มาเสมอ 7-7 ช่วงนั้นคุณรู้สึกยังไงบ้าง?
“การคว้าชัยชนะนัดแรกที่ครูซิเบิลไม่เคยง่าย ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม แต่ผมลงเล่นด้วยความมั่นใจในฟอร์มของตัวเอง ผมรู้ดีว่าถ้าเล่นได้ตามที่ซ้อม ผมสู้กับใครก็ได้ และผมพูดแบบนั้นก่อนแข่งด้วย ซึ่งมันอาจจะดูทะนงตัวไปหน่อย แต่ก็สะท้อนถึงพัฒนาการที่ผมทำได้จริงๆ
“เมื่อห้าปีก่อน ผมไม่มีทางชนะเกมนี้ได้แน่นอน พอเขาตีเสมอ 7-7 คนทั่วไปอาจคิดว่าผมจะพัง แต่ความรู้สึกผมกลับนิ่งมาก ผมรู้ว่าโรเบิร์ตสันไม่ยอมง่ายๆ เขาเป็นแชมป์โลกและเป็นหนึ่งในนักสนุกเกอร์ที่เก่งที่สุดเท่าที่เราเคยมีมา การที่เขากลับมาไล่ทันไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ผมก็ยังยืนระยะจนปิดเกมได้”
แล้วช็อตเหลืองสุดกล้าใจกับมาร์ก อัลเลนที่ทำให้สตีฟ เดวิสร้องไห้ คุณรู้สึกยังไงเมื่อได้ยินเรื่องนี้?
“สตีฟเป็นไอดอลของผมเลยครับ มันยังคงแปลกๆ อยู่ที่ได้อยู่ในห้องเดียวกับเขา หรือแม้แต่สตีเฟน เฮนดรี้ การที่พวกเขามาพากย์เกมของผม ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมคงกลัวจนเล่นไม่ได้แน่ๆ การที่สตีฟชมช็อตหนึ่งของผมว่าแสดงถึงความกล้า มันเป็นเกียรติมาก
“กว่าผมจะตัดสินใจเล่นช็อตนั้น ผมคิดอยู่สักพักเลย แต่พอตัดสินใจแล้ว ผมก็ทำใจได้ทันทีว่าถ้าพลาดแล้วมาร์กพลิกกลับมาได้ ก็ต้องยอมรับมัน เป็นจังหวะที่ผมภูมิใจที่สุดช่วงหนึ่งของทัวร์นาเมนต์เลยครับ”
ตอนมาร์ก อัลเลนทำแม็กซิมัมเบรก คุณกำลังนำอยู่มาก มันส่งผลอะไรกับเกมหรือเปล่า?
“พอเขาทำไปถึง 73 ผมอยากให้เขาทำแม็กซิมัมจริงๆ มันเป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับเขาและสำหรับรายการด้วย การได้ดูแบบใกล้ชิดจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมันน่าเหลือเชื่อ ถึงจะเป็นแค่เฟรมเดียวที่เสียไป แต่เขารู้ว่าเขาต้องทำอีกหลายเฟรมแบบนั้นถึงจะกลับมาได้ มันไม่เปลี่ยนโมเมนตัมของเกมเลยครับ”
แมตช์กับจ้าว ซินถงคุณดูแผ่วไปนิด มองย้อนกลับไปยังรู้สึกดีกับผลงานในรายการนี้ไหม?
“สิ่งที่น่าเสียดายคือ จ้าวดูมีจังหวะเป๋ๆ แค่ในแมตช์กับผมเอง แต่ผมดันหมดพลังทางจิตใจไปแล้ว ทัวร์นาเมนต์แบบนี้มันโหดมาก ไม่ใช่แค่เล่นดี แต่มันคือการรับมือกับความกดดันยาวๆ ตลอดหลายวัน ผมไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน ทำให้ผมตั้งเป้าว่าจะต้องฟิตร่างกายให้มากกว่านี้ในฤดูกาลหน้า ไม่ถึงกับต้องระดับลูกา เบรเซล ที่วิ่งไตรกีฬา แต่ก็ตั้งเป้าเพิ่มความฟิตแบบจริงจัง
“ฤดูกาลที่ผ่านมา ผมเริ่มทำผลงานลึกๆ ได้มากขึ้น หลายรายการก็เข้าชิงได้แล้ว มันทำให้รู้เลยว่าแมตช์ยาวๆ ต้องอาศัยสมาธิและการตัดสินใจที่เฉียบคมกว่าเดิมมาก ยิ่งต้องควบคุมอารมณ์ให้ได้นานๆ ยิ่งยากมากครับ เราเป็นนักกีฬาก็จริง แต่ก็ต้องสร้างความบันเทิงด้วย และที่สำคัญต้องหาเลี้ยงครอบครัวไปพร้อมกัน ผมยิ่งเคารพคนที่เคยได้แชมป์โลกมากขึ้นเลย เพราะมันโคตรยากจริงๆ
“แม้จะแพ้ แต่ผมไม่ได้รู้สึกผิดหวังเลย มันกลับทำให้ผมมุ่งมั่นมากขึ้นอีก ผมอยากติดท็อป 16 ฤดูกาลหน้า เพราะการเล่นรอบคัดเลือกก่อนจะไปถึงครูซิเบิลมันทำให้ล้า แล้วพอไปเจอเกมใหญ่ๆ แบบนี้ร่างกายมันไม่สด จ้าวอาจจะโชคดีที่ก่อนหน้านั้นเขาไม่ได้เล่นเต็มฤดูกาล เลยสดพอดี แต่มันก็เป็นผลงานที่สุดยอดสำหรับเขา เขาคือซูเปอร์สตาร์ของจริง และผมเชื่อว่าเขาจะก้าวไปไกลกว่านี้อีก”
สุดท้ายแล้ว เป้าหมายของคุณในฤดูกาลใหม่คืออะไร?
“เป้าหมายของผมก็ยังเหมือนเดิมทุกปีครับ คือการเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด ฤดูกาลนี้ผมจะใส่ใจกับการเตรียมร่างกายและสภาพจิตใจให้มากขึ้น เพราะถ้าเราเจอคนที่เล่นได้ดีแบบสุดๆ ขึ้นมา บางทีก็ไม่มีอะไรที่เราจะไปห้ามเขาได้ เราทำได้แค่เตรียมตัวให้ดีที่สุด และนั่นคือสิ่งที่ผมจะทำแน่นอน”
