จอห์นนี คาร์โดโซ กองกลางเชิงรับบราซิล-อเมริกันของสโมสรเรอัล เบติส คือหนึ่งในนักเตะที่ได้รับการยกย่องอย่างมาของ เรอัล เบติส ในฤดูกาล 2024/25 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เขาเป็นกำลังสำคัญที่ทำให้ทีมมีผลงานที่ยอดเยี่ยม สามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ยูฟ่า ยูโรป้า คอนเฟอเรนซ์ ลีก แม้สุดท้ายจะพ่ายต่อ เชลซี พลาดการคว้าแชมป์ก็ตาม
จอห์นนี คาร์โดโซ มีชื่อเต็มว่า เจา ลูคัส เดอ ซูซา คาร์โดโซ เกิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน ปี 2001 ที่เมืองเดนวิลล์ รัฐนิวเจอร์ซีย์ ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่เพียงไม่กี่เดือนหลังจากลืมตาดูโลก ครอบครัวของเขาก็ย้ายกลับไปยังบราซิล บ้านเกิดของพ่อแม่ และที่นั่นเองคือจุดเริ่มต้นเส้นทางลูกหนังของเขา
คาร์โดโซเ ริ่มต้นการเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย เขาฝึกฝนกับทีมเยาวชนของคริซิอูมา ก่อนจะย้ายไปอยู่กับสโมสรอาไว และในที่สุดปี 2014 เขาได้รับโอกาสเข้าร่วมอคาเดมีของอินเตอร์นาซิอองนาล หนึ่งในสโมสรชื่อดังของลีกบราซิล ที่ซึ่งเขาใช้เวลาหลายปีขัดเกลาทักษะและเรียนรู้วิธีการเล่นทั้งในเกมรับและการจ่ายบอลที่แม่นยำ เดิมทีเขาเริ่มต้นจากตำแหน่งกองหน้า ก่อนจะค่อยๆ ถอยมายืนเป็นกองกลางตัวต่ำ ซึ่งกลายเป็นบทบาทที่เขาทำได้โดดเด่นที่สุด
การก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ของอินเตอร์นาซิอองนาลเกิดขึ้นในเดือนกันยายน ปี 2019 ซึ่งคาร์โดโซเพิ่งอายุได้เพียง 17 ปีเท่านั้น เขาลงเล่นนัดแรกในลีกบราซิลเกมพบกับอัตเลติโก มิเนโร และสร้างความประทับใจทันทีด้วยสไตล์การเล่นที่นิ่งเกินวัย รวมถึงวิสัยทัศน์ในการผ่านบอลที่ยอดเยี่ยม ตลอดช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับอินเตอร์นาซิอองนาล เขาลงสนามรวม 117 นัด ยิงได้ 6 ประตู และได้รับคำชมอย่างต่อเนื่องจากโค้ชและสื่อท้องถิ่นว่าเป็นหนึ่งในกองกลางอนาคตไกลของบราซิล แม้เขาจะมีสัญชาติอเมริกันก็ตาม
ความสามารถของเขาไปเข้าตาทีมแมวมองจากยุโรป กระทั่งในเดือนธันวาคม ปี 2023 สโมสรเรอัล เบติสจากสเปนตัดสินใจคว้าตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัวประมาณ 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมมอบสัญญาระยะยาวถึงปี 2028 โดยคาร์โดโซกลายเป็นนักเตะอเมริกันคนแรกที่ย้ายมาสู่ทีมดังจากลาลีกาแห่งนี้ทันทีหลังจากเปิดตลาดเดือนมกราคม ปี 2024 เกมแรกของเขาในเสื้อเบติสคือการลงสนามเจอบาร์เซโลนา วันที่ 21 มกราคม แม้เกมนั้นทีมจะแพ้ 2-4 แต่เจ้าตัวได้รับเสียงชื่นชมจากสื่อสเปนว่าแสดงความนิ่งและวางบอลได้ยอดเยี่ยมแม้เป็นนัดประเดิมสนาม
ฤดูกาลครึ่งฤดูกาลแรกของเขากับเบติสจบลงด้วยสถิติลงสนาม 19 นัด ยิงได้ 1 ประตู จากนั้นในฤดูกาล 2024/25 จอห์นนี่ ยังคงแสดงผลงานที่โดดเด่น โดยลงสนามรวมทั้งสิ้น 45 นัดในทุกรายการ ทำได้ 4 ประตูและ 1 แอสซิสต์ โดยเกมที่น่าจดจำคือการทำประตูในเกมที่ชนะเรอัล มาดริด 2-1 และการโหม่งประตูเปิดเกมในชัยชนะเหนือคิโรน่า 3-1
ขณะที่ในศึกยูฟ่า คอนเฟอเรนซ์ ลีก คาร์โดโซมีบทบาทสำคัญในการพาเบติสผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ โดยลงเล่น 8 นัดและทำได้ 1 ประตู ในรอบรองชนะเลิศกับฟิออเรนตินา ซึ่งเขาลงเล่นครบ 120 นาทีในนัดที่สอง แสดงความแม่นยำในการจ่ายบอลถึง 93% และได้รับการประเมินว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของทีม และด้วยผลงานทั้งหมดของเขาถือว่าโดดเด่นพอจนสโมสรรีบขยายสัญญาออกไปจนถึงปี 2030 ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งปีนับตั้งแต่ย้ายมาอยู่ที่สเปน ซึ่งสะท้อนถึงความไว้วางใจที่สโมสรมีให้กับดาวเตะวัยเพียง 23 ปีรายนี้อย่างชัดเจน
ในระดับทีมชาติ คาร์โดโซเลือกเล่นให้กับทีมชาติสหรัฐอเมริกา แม้จะมีสิทธิ์เล่นให้บราซิลด้วยเช่นกัน โดยเขาถูกเรียกตัวติดทีมชาติชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 และหลังจากนั้นก็กลายเป็นขาประจำในทีม ด้วยสไตล์การเล่นที่สามารถเปิดเกมและเชื่อมเกมได้ดี เขาได้รับความไว้วางใจในหลายรายการสำคัญ รวมถึงฟุตบอลโลก 2022 ที่กาตาร์ ซึ่งเขามีชื่ออยู่ในทีมชุดสุดท้าย แม้จะไม่ได้ลงเล่นมากนัก แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ระดับสูงที่เสริมสร้างความมั่นใจให้เขาอย่างมหาศาล
เส้นทางของจอห์นนี่ คาร์โดโซ ยังคงน่าสนใจไม่น้อย เชื่อว่าเขาจะก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่น่าจับตามองที่สุดของเวทียุโรปในอีกไม่ช้า