ความสำเร็จของอตาลันตา ที่หักปากกาเซียนล้มทีมไร้พ่ายอย่าง เลเวอร์คูเซน คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรป้า ลีกนั้น ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเกือบทั้งหมดต้องยกความดีความชอบให้กับ จาน ปิเอโร กาสเปรินี กุนซือจอมเก๋าวัย 66 ปี ที่เป็นผู้ทำให้สิ่งต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้น
จาน ปิเอโร กาสเปรินี เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม 1958 ที่เมือง กรูเลียสโค ประเทศอิตาลี สมัยเป็นนักฟุตบอลนั้น เขาเริ่มจากการเป็นเด็กฝึกหัดของ ยูเวนตุส ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ โดยอยู่ยุคเดียวกับแข้งระดับตำนานอย่าง เปาโล รอสซี่ ในชุดเยาวชนด้วย
อย่างไรก็ตาม กาสเปรินี่ แจ้งเกิดกับ “ม้าลาย” ไม่สำเร็จ จนต้องย้ายไปอยู่กับ เรจจิน่า แบบยืมตัว และสุดท้าย ยูเว่ ก็ปล่อยออกจากทีมไปอยู่กับ ปาแลร์โม่ เป็นการถาวรในเวลาต่อมา
หลังจากนั้น กาสเปรินี ก็วนเวียนค้าแข้งในทีมลีกรองเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น คาเวเซ่, ปิสโตเยเซ่, เปสคาร่า, ซาแลร์นิตาน่า และ วิส เปซาโร่ ก่อนแขวนสตั๊ดในปี 1993 ด้วยวัย 35 ปี ลงเล่นตลอดอาชีพไป 475 นัด ยิงได้ 45 ประตู
หลังแขวนสตั๊ดได้ราว 1 ปี จาน ปิเอโร กาสเปรินี ได้รับโอกาสให้ไปเป็นหนึ่งในทีมสต๊าฟโค้ชให้ทีมเยาวชนของ ยูเวนตุส และค่อยๆไต่เต้าจากการทำทีมชุด ยู-14 สู่ ยู-17 และ ยู-20 ในเวลาต่อมา กระทั่งในปี 2003 กาสเปรินี ก็ถูก โครโตเน่ ทีมในระดับ เซเรีย ซี ดึงไปคุมทีมชุดใหญ่ และก็สามารถพาทีมเลื่อนชั้นสู่เซเรีย บี ได้สำเร็จ
ผลงานการเป็นกุนซือของ กาสเปรินี นั้นเริ่มเป็นที่ประจักษ์ ทำให้เขาถูกดึงตัวไปคุมทีม เจนัว ใน เซเรีย บี ฤดูกาล 2006 ก่อนจะพาทีมเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้สำเร็จ และในฤดูกาล 2008-09 เจ้าตัวก็พา เจนัว ที่มีดาราชูโรงอย่าง ดีเอโก มิลิโต และ ติอาโก ม็อตตา สร้างเซอร์ไพรส์จบที่อันดับ 5 ของ เซเรีย อา ซึ่งเป็นผลงานที่ดีที่สุดของทีมในรอบเกือบ 2 ทศวรรษทีเดียว
จากผลงานอันยอดเยี่ยมกับ เจนัว ทำให้ อินเตอร์ มิลาน ยักษ์ใหญ่ในเซเรีย อา ดึงตัวเขาไปคุมทัพ ในฤดูกาล 2011-12 แต่เมื่อมาถึงเขากลับไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่หวัง ออกสตาร์ตได้อย่างย่ำแย่ ก่อนจะถูกปลดออกหลังจากคุมทีมได้เพียง 3 เดือนเท่านั้น
หลังจากนั้น กาสเปรินี ก็ไปรับงานกับ ปาแลร์โม ในปี 2012 รวมถึงกลับมายังเจนัว ในปี 2013 ด้วย แต่ก็ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก กระทั่งในปี 2016 เป็น อตาลันตา ที่ยื่นโอกาสให้กับ กุนซือ ที่มีของแต่กำลังเสียสูญคนนี้
อตาลันตา แต่งตั้ง กาสเปรินี ด้วยความที่มีนโยบายทำทีมที่ตรงกันคือ เน้น สร้าง มากกว่า ซื้อ โดย อตาลันตา ต้องการให้โค้ช ของเขาปั้นเยาวชนขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ นอกจากนี้ กาสเปรินี ยังเป็นกุนซือที่เน้นเกมบุกเป็นหลัก ทำให้เขาได้รับความไว้วางใจมากอย่างยาวนาน แม้ช่วงแรกจะผลงานไม่ดีจนเกือบจะถูกปลด อยู่เหมือนกัน แต่ ด้วยความที่ยัง ยึดมั่นในหลักการ ทำให้ กาสเปรินี ค่อยๆสร้างทีมอตาลันต้า ขึ้นมาทัดเทียมกับทีมใหญ่ๆในลีกได้
รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมแห่งปี ของ เซเรีย อา ในปี 2019 และ 2020 การันตี ได้เป็นอย่างดีว่า กาสเปรินี คือกุนซือสมองเพชรที่ผลักดันอตาลันตา ขึ้นมาเป็นทีมที่น่ากลัว และตอกย้ำเข้าไปอีกกับ การคว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก 2023/24 ที่ล้มยักษ์ใหญ่อย่าง สปอร์ตติ้ง ลิสบอน, ลิเวอร์พูล, มาร์กเซย และรอบชิงคือหยุดสถิติไร้พ่ายของ เลเวอร์คูเซน ไว้ที่ 51 นัด
แน่นอนว่าในฤดูกาลหน้า อตาลันตา จะยังคงเป็นทีมที่น่ากลัว และเป็นอีกหนึ่งตัวเต็งในการเบียดลุ้นแชมป์ต่างๆ ที่ลงเล่น ตราบเท่าที่ จาน ปิเอโร กาสเปรินี ยังคงคุมบังเหียนของทีมต่อไป
