จามาล มูเซียลา จากแข้งที่ไม่อยู่ในแผนเชลซี สู่ยอดดาวรุ่งอนาคตไกลของ บาเยิร์น เป็นอีกหนึ่งดาวรุ่งที่น่าจับตามองในโลกลูกหนังสำหรับ จามาล มูเซียลา ดาวเตะอนาคตไกลทีมชาติเยอรมนี ของ บาเยิร์น มิวนิค ที่กำลังฟอร์มแรง และได้รับโอกาสลงสนามกับทีมอย่างต่อเนื่อง
จามาล มูเซียลา เกิดเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2003 ในเมืองสตุ๊ตการ์ต ประเทศเยอรมนี เขามีคุณพ่อเป็นชาวไนจีเรีย ส่วนคุณแม่เป็นชาวเยอรมนี ที่มีเชื้อสายโปแลนด์ พร้อมกับมีพี่น้องทั้งหมด 3 คน โดยตัวเขาเองเป็นคนกลาง
เมื่อ มูเซียลา อายุได้ 2 ขวบ ครอบครัวของเขาต้องย้ายไปอยู่ในเมือง ฟุลดา และที่แห่งนี้เองทำให้ มูเซียลา รู้จักกับฟุตบอล และมีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
มูเซีย ได้เริ่มรู้จัก และหัดเล่นฟุตบอล ตอนอายุได้ 4 ขวบ ก่อนจะได้เข้าไปฝึกฝนกับ ทีเอสวี เลห์เนอร์ซ โดย ฮอฟฟ์แมนน์ โค้ชคนแรกของเขา เคยเล่าว่า “ระหว่างการฝึกซ้อม จามาล ตอนนั้นอายุได้เพียง 4 ขวบเท่านั้น แต่เขาไม่มีความกลัวใดๆ เขาดูสง่างามอย่างไม่น่าเชื่อกับการเลี้ยงบอล เขาไม่เคยเสียบอล อีกทั้งทุกคนก็ชอบที่จะดูเขาเล่น”
ในฤดูกาลแรกกับอะคาเดมี มูเซียลา ทำลายสถิติยิง 100 ประตู ซึ่งเป็นสถิติที่ไม่มีใครทำได้ในประวัติศาสตร์ของ ทีเอสวี เลห์เนอร์ซ อีกทั้งเวลาต่อมาเขายังพาทีมคว้าแชมป์รายการสำคัญอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเส้นทางฟุตบอลกับทีม ทีเอสวี เลห์เนอร์ซ ต้องหยุดลง เมื่ออายุได้ 7 ขวบ ครอบครัวจำเป็นต้องย้ายบ้านอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ต้องข้ามประเทศไปถึงอังกฤษ แต่คุณพ่อและคุณแม่ก็พยายามสานต่อความฝัน และความสามารถของเขาต่อไป
อย่างไรก็ตามการจะพาลูกเข้าไปอยู่กับทีมดัง ในลอนดอน อย่าง อาร์เซนอล เชลซี หรือ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลย และเมื่อเวลาผ่านไปโดยที่ไม่ได้เล่นฟุตบอล ก็ทำให้ มูเซียลา เริ่มหงุดหงิด และเบื่อหน่ายกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ด้วยความพยายามของคุณพ่อ สุดท้ายเขาพาลูกชายไปทางตอนใต้ของอังกฤษ และบังเอิญไปรู้จักกับ แจซซ์ บัตติ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนฟุตบอลแห่งหนึ่งที่ชื่อ ซิตี้ เซนทรัล เขาแนะนำให้คุณพ่อส่ง มูเซียลา ไปเรียนฟุตบอลกับโรงเรียนของเขาก่อน เพราะโรงเรียนของเขามีความสัมพันธ์อันดีกับสโมสรเซาแธมป์ตัน
หลังจากวันนั้นคุณพ่อตัดสินใจให้ มูเซียลา เข้าร่วมกับ ซิตี้ เซ็นทรัล ชุดยู-7 ปี ทันที ก่อนที่วันหนึ่งทีมจะได้เข้าไปร่วมเล่นใน สตาเปิลวู้ด ซึ่งเป็นสนามฝึกซ้อมของ เซาแธมป์ตัน ซึ่ง มูเซียลา ก็โชว์ฟอร์มได้โดดเด่น และเข้าตาจนได้มาอยู่กับ ทีมนักบุญ ในที่สุด
เพียงแค่ 1 ปีเท่านั้น ฟอร์มการเล่นของ มูเซียลา ก็ไปถูกใจแมวมองจาก เชลซี และ อาร์เซนอล จนทำให้ 2 ทีมนี้เปิดศึกแย่งชิงตัว มูเซียลา ก่อนที่สุดท้าย จะเป็น เชลซี ที่สร้างความประทับใจให้คุณพ่อ และคุณแม่ของ มูเซียลา ได้มากกว่า และคว้าตัวเขาไปร่วมทีมได้ในที่สุด
มูเซียลา ค่อยเติบโต และพัฒนาฝีเท้าตัวเองได้อย่างน่าสนใจ และเป็นที่หมายมั่นของสโมสรเชลซี ในการก้าวขึ้นมาเป็นกำลังหลักในอนาคต แต่การก้าวขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ของทีมไม่กลายเป็นความจริง เนื่องจากครอบครัวของเขาต้องย้ายกลับไปที่ เยอรมนี อีกครั้ง อีกทั้งช่วงเวลานั้นเอง แฟรงก์ แลมพาร์ด กุนซือของทีม ก็ไม่ได้นับรวมเขาในแผนทำทีม ทำให้ มูเซียลา ปฏิเสธที่จะต่อสัญญากับทีมออกไป
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเป็น เวลาเดียวกับที่ บาเยิร์น มิวนิก ติดต่อเข้ามาพอดิบพอดี โดยบาเยิร์น ที่กำลังก้อร่อก้อติก และสืบเรื่องราวของ คัลลัม ฮัดสัน-โอดอย บังเอิญมาได้ยินเรื่องราวความยอดเยี่ยมของ มูเซียลา จากน้องชายของ โอดอย ที่มักจะพูดถึง
มูเซียลา หลายครั้งจนทำให้ยอดทีมจากเยอรมนี เกิดความสนใจ และติดตามดูฟอร์ม ก่อนจะเข้าเจรจากับเชลซี ทันที ซึ่งดีลนี้ก็ราบรื่นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เพราะ แลมพาร์ด ก็ไม่ได้นับ มูเซียลา ในแผนทำทีมอยู่แล้ว
มูเซียลา ย้ายมาร่วมทีม บาเยิร์น มิวนิก ในปี 2019 โดยเข้ามาช่วยทีมคว้าแชมป์ลีกสำรอง ก่อนที่ปีต่อมาจะถูกดันขึ้นไปเล่นชุดใหญ่ ในฐานะดาวรุ่งอนาคตไกล และปัจจุบันก็ลงสนามไปแล้ว 70 นัด ยิงไป 20 ประตู อยู่ในทีมชุดคว้าแชมป์
บุนเดสลีก้า ปี 2020/21, 2021/22, แชมป์ ซูเปอร์คัพ 2020, 2021, 2022, แชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก 2019/20, แชมป์ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2020 และ แชมป์ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2020
ขณะที่ในส่วนของทีมชาติ มูเซียล่า เล่นให้ทีมชาติอังกฤษ มาตั้งแต่ชุดอายุไม่เกิน 15 ปี, 16 ปี, 17 ปี และ 21 ปี ก่อนที่หลังจากย้ายมาอยู่เยอรมนี เขาจะตัดสินใจลงเล่นชุดใหญ่ให้กับบ้านเกิด ในปี 2021 โดยลงสนามไปแล้ว 17 นัด ยิงไป 1 ประตู
ในฟุตบอลโลก 2022 จามาล มูเซียลา ก็เป็น 1 ใน 26 ขุนพล “อินทรีเหล็ก” บินไปลุยที่กาตาร์ ด้วย หากโชว์ฟอร์มได้ดี น่าจะทำให้ชื่อของ มูเซียลา เป็นที่รู้จัก และถูกยกไปเทียบชั้นดาวรุ่งแห่งยุคทั้งหลายอย่าง เออร์ลิง ฮาลันด์, คีลิยัน เอ็มบับเป, กาบี ฯลฯ