สเตฟานอส ซิตซิปาส มือวางอันดับ 11 ชาวกรีก ดีกรีรองแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2023 ระบุเหมือนกรรมตามสนองหลังกระเด็นตกรอบแรกของศึกเทนนิสแกรนด์แสลม ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025 เนื่องจากเจ้าตัวถอนตัวจากการแข่งขันประเภทคู่ทั้งๆ ที่ไม่มีอาการบาดเจ็บ เนื่องจากต้องการรักษาความฟิตมาเล่นในประเภทชายเดี่ยว
สำหรับ ซิตซิปาส พลิกล็อกตกรอบแรกของศึกเทนนิสแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ที่เมลเบิร์นปาร์ก ประเทศออสเตรเลีย หลังพ่ายต่อ อเล็กซ์ มิเชลเซน มือ 42 ของโลกชาวอเมริกัน 5-7, 3-6, 6-2, 4-6
โดยก่อนลงแข่งขันรายการนี้ ซิตซิปาส เพิ่งถอนตัวจากการลงเล่นประเภทชายคู่ซึ่งเดิมมีแผนจะจับคู่กับน้องชาย เปตรอส ซิตซิปาส เพิ่มโอกาสในการเข้ารอบลึกแต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จ
หลังการแข่งขันอดีตผู้เล่นมือ 3 โลกกล่าวถึงการตกรอบว่า เหมือนกับกรรมตามสนองเนื่องจากการถอนตัวจากประเภทคู่มาเพื่อจะฟิตเต็มที่ในประเภทเดี่ยวทว่าไปไม่ถึงไหน “สิ่งที่น่าหงุดหงิดสุดเกี่ยวกับการแพ้รอบแรกของแกรนด์ สแลม คือ คุณมีเวลาพักเหลือเฟือ แต่ผมอยากให้ผลตรงกันข้าม ซึ่งผมไม่มีเวลาพักเพียงพอ”
“บอกตามตรง มันเป็นผลดีมากๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหา มันแย่สุดๆ ตรงที่ผมต้องนั่งๆ นอนๆ พักใหญ่ๆ ก่อนเริ่มทัวร์นาเมนต์ต่อไป ตามนิสัยชอบการแข่งขันของผม ผมรู้สึกว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เหมาะกับผมเลย”
ส่วนผลคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ ยานนิก ซินเนอร์ มือ 1 โลก และแชมป์เก่าชายเดี่ยวจากอิตาลีผ่านเข้ารอบสองแบบหืดจับเล็กน้อย หลังคว้าชัยเหนือนิโคลัส ยาร์รี มืออันดับ 36 ของโลกจากชิลี 7-6(2), 7-6(5), 6-1
ขณะที่ โนวัก ยอโควิช อดีตนักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวเซอร์เบีย และเจ้าของแชมป์ออสเตรเลียน โอเพ่น สูงสุดตลอดกาล 11 สมัยซึ่งปัจจุบันรั้งอันดับ 7 ของโลก พลาดท่าเสียเซตแรกก่อนกลับมาคว้าชัยเหนือนิเชช บาซาวาเรดดี นักหวดไวลด์การ์ดวัย 19 ปี จากสหรัฐ 4-6, 6-3, 6-4, 6-2
ทั้งนี้ ยอโควิช กำลังไล่ล่าแชมป์ชายเดี่ยวแกรนด์สแลมสมัยที่ 25 ซึ่งจะทำให้เขาเป็นเจ้าของสถิติสูงสุดตลอดกาลของวงการสักหลาดโลกในประเภทชาย หรือหญิง จากที่ปัจจุบันครองสถิติร่วมกับ มาร์กาเร็ต คอร์ต ตำนานสักหลาดชาวออสเตรเลีย และปีนี้เขาได้ แอนดี เมอร์เรย์ อดีตคู่ปรับคนสำคัญซึ่งเพิ่งแขวนแร็กเกตไปเมื่อปีก่อนมาทำหน้าที่โค้ชให้
