ยานนิก ซินเนอร์ นักเทนนิสชายมือ 1 โลกจากอิตาลีระบุว่า เขาอยากจะต่อสู้กับ คาร์ลอส อัลคาราซ แร็กเกตมือ 2 โลกไปอีกนานเนื่องจากเป็นคู่แข่งที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยถาพ
โดย ซินเนอร์ เพิ่งดวลกับ อัลคาราซ ในเทนนิสรายการพิเศษ “ซิกส์ คิงส์ สแลม” รอบชิงชนะเลิศที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย ซึ่งผลปรากฏว่า มือ 1 โลกหวดเอาชนะมือ 2 โลกไป 3 เซ็ตรวด 6-7(5) 6-3 6-3 คว้าแชมป์ไปครอง พร้อมรับเงินรางวัลไปถึง 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 198.9 ล้านบาท)
ก่อนหน้านี้ ซินเนอร์ และอัลคาราซ ได้รับการคาดหมายว่า จะขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ของวงการเทนนิสยุคใหม่ต่อจากยุคของ 3 บิ๊กทรีอย่าง โนวัก ยอโควิช จากเซอร์เบีย, โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ จากสวิตเซอร์แลนด์ และราฟาเอล นาดาล จากสเปน ซึ่งประสบความสำเร็ตมากมาย ทว่า เฟเดอเรอร์ แขวนแร็กเกตไปแล้ว ส่วน นาดาล กำลังจะรีไทร์หลังจบทัวร์นาเมนต์ เดวิส คัพ ในเดือน พ.ย.นี้
โดยเฉพาะปีนี้ที่ ซินเนอร์ และอัลคาราซ แบ่งกันคว้าแชมป์แกรนด์สแลมไปคนละ 2 รายการ ส่วนสถิติการพบกัน 10 นัดทุกรายการ 10 ครั้งในทัวร์เอทีพีเป็น อัลคาราซ ที่ทำได้ดีกว่าด้วยการชนะ 6 นัด
หลังคว้าแชมป์ ซินเนอร์ วัย 23 ปีระบุว่า เขาอยากจะลงแข่งขันกับ อัลคาราซ ไปอีกนานเนื่องจากอีกฝ่ายเป็นนักเทนนิสที่มีฝีมือ “ผมตื่นนอนตอนเช้า และพยายามทำความเข้าใจถึงวิธีที่จะเอาชนะเขา การแข่งขันแบบนี้ ผู้เล่นแบบนี้ ผลักดันให้เราทุ่มเทเต็มที่เสมอ ผมหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้จะคงอยู่ยาวนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่ยังมีผู้เล่นชั้นยอดอีกมากมายที่สามารถเข้ามาร่วมแข่งขันได้ มาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคต”
ด้าน ยอโควิช ซึ่งลงแข่งขันในรายการดังกล่าวเช่นกันกล่าวชื่นชมพัฒนาการของทั้ง ซินเนอร์ และอัลคาราซ ที่ก้าวขึ้นมาอย่างรวดเร็ว มันเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านที่ต้องใช้เลา เป็นกระบวนการปกติ และผู้คนคงพูดถึงเรื่องนี้อีกหลายปี ตอนนี้เรามีนักเทนนิสอายุน้อย และมีคนอื่นๆ ที่อยู่มาพักหนึ่งแล้ว ทั้งอเล็กซานเดอร์ ซเวรเฟ, ดานือิล เมดเวเดฟ, สเตฟานอส ซิตซิปาส พวกเขาต่างเป็นมือท็อป 10 ของโลก เมดเวเดฟเคยเป็นมือ 1 และสู้กับนักเทนนิสรุ่นใหม่มาแล้ว
“ซินเนอร์ กับอัลคาราซ พัฒนาเป็นคู่อริที่ยอดเยี่ยมมากในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และสร้างความสนใจให้คนมากมาย หลายคนอาจจะไม่ได้ติดตามเทนนิส แต่ติดตามคู่แข่ง พวกเขาชอบสิ่งที่อยู่ตรงข้ามกัน”
