ยานนิก ซินเนอร์ นักเทนนิสมือ 1 ของโลกชาวอิตาลี ยอมรับโทษแบนจากวงการเทนนิส 3 เดือน ซึ่งจะส่งผลทันที หลังจากมีการเจรจากับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดา ในความผิดฐานตรวจพบสารกระตุ้น 2 ชนิดเมื่อปีที่แล้ว
“บีบีซี” สื่อของประเทศอังกฤษ รายงานว่า ซินเนอร์ ในวัย 23 ปี ที่พึ่งคว้าแชมป์แกรนด์สแลม ออสเตรเลียน โอเพ่น เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา จะถูกลงโทษแบนเป็นเวลา 3 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. 2024 ที่ผ่านมา จนถึง 4 พ.ค. /จ/ถ นี้
โทษแบนดังกล่าวจะส่งผลให้ ซินเนอร์ พลาดลงแข่งขันในรายการสำคัญอาทิ บีเอ็นพี พาริบาส โอเพ่น และ ไมอามี โอเพ่น ช่วงเดือน มี.ค. ก่อนกลับมาลงสนามในศึกแกรนด์สแลมที่ 2 ของปี อย่าง เฟรนช์ โอเพ่น ระหว่างวันที่ 25 พ.ค. – 8 มิ.ย. 2025 ที่โรลังด์ การอส กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
แถลงการณ์ระบุว่า วาดา ยอมรับเหตุผลของ ซินเนอร์ ที่อธิบายว่าเขาได้รับสารต้องห้ามโดยไม่ตั้งใจจากความประมาทของนักกายภาพบำบัด วาดา ยอมรับว่าแชมป์แกรนด์สแลม 3 สมัย ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำผิดจริงๆ นอกจากนี้ “สารดังกล่าวไม่ได้ให้ประโยชน์ในการเพิ่มประสิทธิภาพใดๆ และเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นโดยที่เขาไม่รู้ตัว อันเป็นผลจากความประมาทเลินเล่อของผู้ติดตาม”
โดยแถลงการณ์ระบุต่อว่า “ตามบทบัญญัติและบรรทัดฐานของศาลอนุญาโตตุลาการการกีฬา หรือ ซีเอเอส ได้บอกว่า นักกีฬาต้องรับผิดชอบต่อความประมาทเลินเล่อของคณะผู้ติดตาม โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว การลงโทษแบน 3 เดือนจึงถือเป็นผลลัพธ์ที่เหมาะสม”
ก่อนหน้านี้องค์กรนานาชาติเพื่อความโปร่งใสในกีฬาเทนนิส (ไอทีไอเอ) กล่าวเมื่อเดือน ส.ค. 2024 ว่าคณะกรรมการพบว่าซินเนอร์ “ไม่มีความผิดหรือประมาทเลินเล่อ” จากผลการทดสอบเป็นบวกสำหรับคลอสเตโบล ซึ่งเป็นสเตียรอยด์ที่นำไปใช้สร้างมวลกล้ามเนื้อได้ในระดับต่ำ แต่เมื่อเดือน ก.ย. 2024 วาดา ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อคาส โดยระบุในตอนนั้นว่าการตัดสินว่า ไม่มีความผิดหรือประมาทเลินเล่อนั้นไม่ถูกต้องตามกฎที่ใช้บังคับ
ทั้งนี้คณะกรรมการได้ยื่นขอแบนเป็นเวลา 1 ถึง 2 ปี โดยกำหนดวันพิจารณาคดีในวันที่ 16-17 เม.ย. แต่ปัจจุบัน ซินเนอร์ ได้ยอมรับการแบน 3 เดือนแล้ว ซึ่งรายการต่อไปที่เขาจะลงเล่นได้คือรายการ เอทีพี มาสเตอร์ส 1000 อิตาเลียน โอเพ่น ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 7 พ.ค. 2025 แต่ทาง วาดา ได้ถอนการอุทธรณ์ต่อศาลกีฬาโลกอย่างเป็นทางการแล้วทำให้ ซินเนอร์ สามารถกลับมาฝึกซ้อมอย่างเป็นทางการได้ตั้งแต่วันที่ 13 เม.ย.นี้