กลายเป็นประเด็นดรามาขึ้นมาได้ หลังจากที่ ดาวิด อลาบา แข้ง “ราชันย์ชุดขาว” เรอัล มาดริด โหวตให้ ลิโอเนล เมสซี อดีตนักเตะบาร์เซโลนา คู่อริ คว้ารางวัลนักเตะยอดเยี่ยมฟีฟ่า ปีล่าสุด ทำเอาโดนโจมตีจากแฟนบอลมาดริด ลุกลามหนักถึงขั้นเหยียดผิว
ดาวิด โอลาตูคุนโบ อลาบา เกิดเมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 1992 ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย คุณพ่อของเขา จอร์จ อลาบา เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงทางด้านดนตรีของ ออสเตรีย โดยน้องสาวของเขาเลือกที่จะดำเนินเส้นทางตามคุณพ่อ ขณะที่ อลาบา ต้องการเดินในเส้นทางที่ต่างออกไป ทั้งยังท้าทายพอสมควร เนื่องจากออสเตรีย ไม่ค่อยนิยมในกีฬาชนิดนี้เท่าไหร่นัก นั่นคือ ฟุตบอล
อลาบา เข้าฝึกฝนอยู่ในทีมอคาเดมีของ SV Aspern ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ และเมื่อคุณพ่อของเขารับรู้ได้ว่า อลาบา เป็นเด็กที่มีพรสวรรค์ และได้รับการชื่นชมจากโค้ชและคนอื่นๆ จึงเริ่มสนับสนุนเขาอย่างจริงจัง ด้วยการพาเขาไปคัดฝีเท้ากับทีมที่ใหญ่ขึ้นอย่าง Austria Wien ตอนอายุ 10 คน
ดาวิด อลาบา ก้าวขึ้นมาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดในสโมสรอย่างรวดเร็ว ด้วยความสามารถที่เล่นได้หลากหลาย ทั้งเกมรับ กองกลาง หรือเกมรุก ก็ได้ ทำให้ได้รับความสนใจจากแมวมองของ บาเยิร์น มิวนิก ยักษ์ใหญ่ในบุนเดสลีก้า
กระทั่งปี 2008 บาเยิร์น ประสบความสำเร็จในการดึงเขาไปร่วมทีม ซึ่งเขาได้ลงเล่นกับทีมสำรองของบาร์เยิร์น 1 ฤดูกาล ก่อนจะถูกดันขึ้นชุดใหญ่ในปี 2010
นอกจากนี้หลังจากย้ายไปยัง บาเยิร์น ชื่อเสียงของ อลาบา ก็โด่งดัง เป็นที่รู้จักขึ้น นั่นทำให้เขาถูกเรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ออสเตรีย ตั้งแต่ปี 2009 และทำสถิติเป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดของทีมชาติด้วยวัยเพียง 17 ปี
ในชุดใหญ่ของ บาเยิร์น มิวนิก อลาบา โดดเด่นอย่างมากในตำแหน่งแบ๊กซ้าย เขามีทั้งเกมรุกที่ดุดัน และเกมรับที่เหนียวแน่น จนร่วมคว้าแชมป์กับ บาเยิร์น นับไม่ถ้วย ไม่ว่าจะเป็น บุนเดสลีกา 10 สมัย, เดเอฟเบ โพคาล 6 สมัย, ซูเปอร์คัพ 3 สมัย, ยู่ฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 2 สมัย และ ฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 2 สมัย
หลังจากอิ่มตัวกับบาเยิร์น ฤดูกาล 2021/22 เขาตัดสินใจไม่ต่อสัญญากับทีม และย้ายไปเล่นกับ เรอัล มาดริด พร้อมกับร่วมคว้าแชมป์ ลาลีก้า 1 สมัย, ซูเปอร์โคปา 1 สมัย, ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 1 สมัย, ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ 1 สมัย และฟีฟ่า คลับ เวิลด์ คัพ 1 สมัย
น่าสนใจเหมือนกันว่าหลังจากถูกแฟนบอลโจมตีแล้ว จะส่งผลกระทบต่อผลงานในสนามของ อลาบา หรือไม่ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นใคร หรือทำอะไร ก็ไม่สมควรได้รับ หรือโดนเหยียดผิวทั้งสิ้น เชื่อว่ายังมีแฟนบอลอีกหลายคนคอยเป็นกำลังใจให้กับ เดวิด อลาบา
