ดิมิทรี ปาเยต์ ถือเป็นนักฟุตบอลชาวฝรั่งเศสที่มีชื่อเสียงจากสไตล์การเล่นที่เต็มไปด้วยเทคนิคแพรวพราว การจ่ายบอลที่แม่นยำ และฟรีคิกที่ทรงพลัง เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่สร้างความประทับใจให้แฟนบอลทั่วโลก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ค้าแข้งกับเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษ และโอลิมปิก มาร์กเซย ในลีกเอิงฝรั่งเศส
ดิมิทรี ปาเยต์ เกิดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม ค.ศ. 1987 ที่เมืองแซงต์-ปีแยร์ บนเกาะเรอูนียง ดินแดนโพ้นทะเลของฝรั่งเศสในมหาสมุทรอินเดีย เขาเริ่มเล่นฟุตบอลตั้งแต่อายุยังน้อย และเข้าสู่ระบบเยาวชนของสโมสรเลอ อาฟร์ หนึ่งในสถาบันลูกหนังที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสในช่วงต้นทศวรรษ 2000 อย่างไรก็ตาม เส้นทางในช่วงแรกของเขาไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาไม่ได้รับการผลักดันจากเลอ อาฟร์อย่างที่คาดไว้ และต้องย้ายกลับไปเล่นให้สโมสร AS Excelsior ในเรอูนียง ก่อนที่จะกลับมาเล่นในฝรั่งเศสอีกครั้งกับน็องต์ในปี 2005
การแจ้งเกิดในระดับอาชีพของปาเยต์เริ่มต้นที่น็องต์ ซึ่งเขาได้เปิดตัวในทีมชุดใหญ่ในปี 2005 แม้จะยังไม่โดดเด่นนักในช่วงแรก แต่สไตล์การเล่นของเขาก็เริ่มได้รับความสนใจจากแมวมอง และในปี 2007 เขาย้ายไปยังแซงต์-เอเตียน สโมสรที่เขาเริ่มแสดงศักยภาพได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2010/11 ที่เขาทำประตูได้มากถึง 13 ลูกในลีกเอิง ทำให้เริ่มเป็นที่จับตามองจากทีมยักษ์ใหญ่
ในปี 2011 ปาเยต์ย้ายไปร่วมทีมลีลล์ ซึ่งเพิ่งคว้าแชมป์ลีกเอิงในฤดูกาลก่อนหน้า เขาอยู่กับลีลล์เพียง 2 ฤดูกาล แต่ก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในฤดูกาล 2012/13 ที่เขาทำได้ 12 ประตู และจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมทำประตูถึง 13 ครั้ง กลายเป็นหนึ่งในเพลย์เมกเกอร์ที่มีผลงานดีที่สุดในลีกเอิงเวลานั้น
จากลีลล์ เขาย้ายไปร่วมทีมโอลิมปิก มาร์กเซยในปี 2013 และกลายเป็นหัวใจของเกมรุกอย่างรวดเร็ว เขามีฤดูกาลที่น่าประทับใจ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2014/15 ภายใต้การคุมทีมของมาร์เซโล บิเอลซ่า ซึ่งเขาเป็นผู้นำในการแอสซิสต์ของลีกเอิง และฟอร์มการเล่นในช่วงนั้นส่งผลให้เขาได้รับการเรียกติดทีมชาติฝรั่งเศสอย่างต่อเนื่อง
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตค้าแข้งของปาเยต์เกิดขึ้นเมื่อเขาย้ายมาร่วมทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในพรีเมียร์ลีกอังกฤษในปี 2015 ด้วยค่าตัวประมาณ 10.7 ล้านปอนด์ ภายใต้การคุมทีมของสลาเวน บีลิช ปาเยต์กลายเป็นขวัญใจแฟนบอลในทันที ด้วยลูกฟรีคิกที่เฉียบขาด การจ่ายบอลที่ชาญฉลาด และความสามารถในการเปลี่ยนเกมได้ในพริบตา เขาทำไป 9 ประตู และ 12 แอสซิสต์ในฤดูกาลแรก และมีชื่ออยู่ในทีมยอดเยี่ยมของ PFA รวมถึงถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของพรีเมียร์ลีก
ผลงานอันโดดเด่นในอังกฤษยังส่งผลต่อบทบาทของเขาในทีมชาติฝรั่งเศส โดยเฉพาะในศึกยูโร 2016 ที่ฝรั่งเศสเป็นเจ้าภาพ ปาเยต์เป็นหนึ่งในนักเตะคนสำคัญของทีมชาติฝรั่งเศส โดยทำประตูได้ทั้งในเกมเปิดสนามกับโรมาเนียและรอบแบ่งกลุ่มกับแอลเบเนีย เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามและกลายเป็นขวัญใจของแฟนบอลทั้งประเทศ
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับเวสต์แฮมเริ่มสั่นคลอนในปี 2017 เมื่อเขาแสดงความต้องการย้ายกลับฝรั่งเศส สุดท้ายเขาก็ย้ายกลับไปอยู่กับโอลิมปิก มาร์กเซยในเดือนมกราคม ค.ศ. 2017 ซึ่งเขายังคงมีบทบาทสำคัญกับทีมจนถึงช่วงปลายของยุค 2020 โดยเฉพาะในศึกยูโรปาลีก 2017/18 ที่เขามีส่วนพาทีมทะลุถึงรอบชิงชนะเลิศ แม้จะพ่ายให้กับแอตเลติโก มาดริด
ในปี 2023 ปาเยต์ได้ย้ายไปค้าแข้งในลีกบราซิลกับสโมสรวาสโก ดา กาม่า ซึ่งเป็นความท้าทายใหม่ในวัยเกิน 35 ปี แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและแพสชันที่เขามีต่อเกมฟุตบอล แม้จะไม่ได้อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพเหมือนในอดีต แต่เขายังคงได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่มีพรสวรรค์และความคิดสร้างสรรค์สูงที่สุดของฝรั่งเศสในยุคหลัง
ตลอดอาชีพของดิมิทรี ปาเยต์ เขาลงสนามมากกว่า 600 นัดในระดับสโมสร ทำประตูได้กว่า 100 ประตู และจ่ายแอสซิสต์หลายร้อยครั้ง นับเป็นนักเตะที่ฝากความประทับใจไว้ในหลายลีกทั้งฝรั่งเศส อังกฤษ และล่าสุดในบราซิล ด้วยสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ และฟรีคิกอันเฉียบขาด แบบที่เขาทำได้ตลอดมา