แม้ในฟุตบอลโลก 2022 จะยังไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามเท่าไหร่นัก แต่ ดูซาน วลาโฮวิช ศูนย์หน้าวัย 22 ปี ก็ยังถือเป็นตัวตัวเลือกในแดนหน้าที่สุดอันตรายของทีมชาติ เซอร์เบีย
ดูซาน วลาโฮวิช เกิดเมื่อวันที่ 28 มกราคม 2000 ในเมืองเบลเกรด ประเทศเซอร์เบีย หรือ ยูโกสลาเวียเดิม เขามีน้องสาวอยู่ 1 คน ขณะที่พี่ชายของเขาเสียชีวิตไปช่วงสงคราม ทำให้เมื่อโตขึ้นเขาเลือกจะสักไว้ที่แขนขวา เพื่อระลึกถึงพี่ชายอยู่เสมอ
วลาโฮวิช เติบโตขึ้นมาในช่วงเวลาอลม่านหลังสงคราม เริ่มแรกคุณพ่อคุณแม่เขายังไม่ยอมให้ลูกชายเทหมดหน้าตักกับฟุตบอลเท่าไหร่นัก เนื่องจากต้องการให้ วลาโฮวิช มีความแน่นอนในชีวิต เขาจึงทำข้อตกลงกันว่า หาก วลาโฮวิช ไม่สามารถเอาดีทางฟุตบอลได้ จำเป็นต้องมุ่งสู่การเรียนเพื่อเป็นแพทย์ให้ได้
อย่างไรก็ตามด้วยความมุ่งมั่นของ วลาโฮวิช เขาผ่านการคัดเลือกกับโรงเรียนสอนฟุตบอล เอเธนส์ จากเซมุน ซึ่ง ดูซาน สนุกสนานกับโค้ชของเขา ราโดวาน เซคูลิช ตลอดเวลา ดูซาน สามารถเล่นกับเด็กที่แก่กว่า ก่อนที่ในเวลาไม่นาน เพื่อนร่วมทีมก็โหวตให้เขาเป็นกัปตัน
วลาโฮวิช ฝึกซ้อมอยู่แทบจะตลอดเวลา ทำให้ฝีเท้าของเขาพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ในการแข่งขันไม่มีผู้รักษาประตูคนไหนอยากจะรับลูกยิงของเขา นอกจากนั้นเขายังทำมันได้ดีกับการไล่ต้อนคู่ต่อสู้ การเลี้ยงบอล การครองบอล และการยิงระยะไกล
ขณะที่รูปร่างหน้าตา และทักษะ กับร่างกายที่สูงใหญ่ วลาโฮวิชช่างเป็นส่วนผสมที่ลงตัว ทำให้ผู้คนมักพูดกันว่าเขาเหมือน ซลาตัน อิบราฮิโมวิช เอามากๆ ด้วยเหตุนี้เขาจึงไปเข้าตาแมวมองจาก โอเอฟเค เบลกราด ทีมสโมสรอาชีพที่ใหญ่ขึ้นไปอีก ก่อนที่ในปี 2014 ปาร์ติซาน เบลเกรด จะดึงตัวเขาไปร่วมทีม
กองหน้าอายุน้อยคนนี้ถูกยกย่องว่าว่าเป็นนักฟุตบอลที่มีพรสวรรค์มากที่สุดของปาร์ติซาน เคียงข้างกับนิโกลา มิเลนโควิช ซึ่งเวลาต่อมาเขาได้รับสัญญาอาชีพฉบับแรกเมื่ออายุ 15 ปี
หลังจาก วลาโฮวิช จบไฮสคูล ปาร์ติซาน ได้ดันเขาขึ้นชุดใหญ่อย่างเต็มตัว ก่อนที่เขาจะได้เปิดตัวในเซอร์เบีย ซูเปอร์ลีกา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 กับโอเอฟเค เบโอกราด ทำให้เขาเป็นผู้ที่เปิดตัวและเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุด ในประวัติศาสตร์ของปาร์ติซาน ก่อนที่จะคว้าแชมป์ลีก ในฤดูกาล 2016/17 และแชมป์ เซอร์เบียน คัพ อีก 2 สมัย
วลาโฮวิช ได้รับความสนใจจากหลายทีมในยุโรป ทั้ง อันเดอร์เลชต์ รวมถึงยังมีข่าวว่า อาร์เซนอล ยื่นเงิน 2 ล้านปอนด์ ให้ แต่ก็ถูกปฏิเสธ ขณะที่ ยูเวนตุส ที่ให้ความสนใจเขาเช่นกัน ก็เหมือนไม่ค่อยจริงจังกับดีลนี้เท่าไหร่นัก โดยเลือกที่จะพุ่งความสนใจไปที่ มาริโอ มานด์ซูคิช มากกว่า
อย่างไรก็ตาม วลาโฮวิช ให้ความสนใจที่จะไปค้าแข้งในอิตาลี มากกว่าที่อื่น ก่อนจะเป็น พิออเรนตินา ที่ซื้อใจเขา และครอบครัวสำเร็จ
บททดสอบแรกของ วลาโฮวิช คือการลงช่วยทีมเยาวชนฟิออเรนติน่าคว้าแชมป์โคปปา อิตาเลีย พรีมาเวรา ซึ่ง วลาโฮวิช กลายเป็นผู้ทำประตูสูงสุดในการแข่งขันด้วย
แฟนๆของ “ม่วงมหากาฬ” นำเขาไปเปรียบกับตำนานสโมสรอย่าง กาเบรียล บาติสซูต้า และ ฟอร์มของ ดูซาน วลาโฮวิช ก็เด่นเช่นขึ้นเมื่อได้ประสานงานกับ เฟเดริดก เคียซ่า รวมถึงการมาของ ฟรองก์ ริเบรี โดยในฤดูกาล 2020/21 เขายิงให้ทีมถึง 21 ประตูจาก การลงสนาม 40 นัด อีกทั้งฤดูกาลต่อมาก็พัฒนาขึ้นไปอีก เมื่อยิงอีก 20 ประตู จากการลงสนามเพียง 24 นัด
วลาโฮวิช กลายเป็นศูนย์หน้าที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในยุโรป ทั้ง แมนฯ ซิตี้, แมนฯ ยูฯ, อาร์เซนอล ฯลฯ ต่างให้ความสนใจจะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อดึงเขาไปร่วมทีม แต่สุดท้ายก็เป็น ยูเวนตุส ที่คว้าตัวเขาไปได้ในที่สุด ด้วยค่าตัวถึง 80 ล้านยูโร
กับทีมชาติเซอร์เบีย เขาติดทีมชุดใหญ่ เมื่อปี 2020 ปัจจุบัน ยิงไปแล้ว 8 ประตู ขณะที่ในฟุตบอลโลก หนนี้แม้จะยังได้รับโอกาสลงสนามน้อยนิด แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในขุมกำลังสุดสำคัญของเซอร์เบีย
รอวันที่เขาได้รับโอกาสอย่างเต็มที่ น่าสนใจจริงๆว่า ศูนย์หน้าระดับ วลาโฮวิช จะสร้างผลงานให้ทีมได้มากน้อยแค่ไหน