การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 “หางโจวเกมส์” ที่สนามหางโจว นอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี้ คังเฉียน ยิมเนเซียม เมืองหางโจว ประเทศจีน เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2566 เป็นการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศ ตบสาวไทย ทีมอันดับ 13 ของโลก รองแชมป์เก่าเอเชียนเกมส์ เมื่อปี 2018 ลงสนามพบกับ เจ้าภาพจีน ทีมอันดับ 6 ของโลก ดีกรีแชมป์ 8 สมัย และแชมป์เก่าครั้งก่อน
สำหรับทีมสาวไทย ทำผลงานในรอบสอง ด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่มเอฟ ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศเข้ามาเจอกับเจ้าภาพจีน ซึ่งเป็นแชมป์กลุ่มอี โดยคู่นี้เป็นการรีแมตช์นัดชิงชนะเลิศ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่กรุงจาการ์ตา-ปาเล็มบัง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปี 2018 โดยครั้งนั้นเป็นทางทีมจีน ชนะ สาวไทย 3-0 เซ็ต คว้าแชมป์สมัยที่ 8 ไปครอง
เกมนี้ “โค้ชด่วน” นายดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมวอลเลย์บอลสาวไทยจัดทัพส่งผู้เล่นชุดแรก ประกอบด้วย “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์, “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์, “เพียว” อัจฉราพร คงยศ, “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี, “แนน” ทัดดาว นึกแจ้ง, “เตย” หัตยา บำรุงสุข โดยมีกัปตันทีมเป็น “แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย ทำหน้าที่เป็นตัวรับอิสระ
เซ็ตแรก ตบสาวไทย เริ่มต้นได้ดี ขยับแต้มหนีไปก่อน 4-2 ก่อนจะเป็นเจ้าภาพ ที่อาศัยความเด็ดขาดจากเกมบุก และลูกเสิร์ฟทำ 7 คะแนนรวด ขยับแซงขึ้นไปนำ 9-4 จากนั้นยังเป็นจีนที่ทำได้ดีกว่า ขณะที่ ไทย พยายามแก้เกมสู้ และทำได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเกมบล็อก ทำให้แต้มขึ้นม้าท่ากันที่ 18 คะแนน กระทั่งจีนต้องขอเวลานอกเพื่อเบรกเกมทีมชาติไทย และเกมยังคงสูสี เบียดกันแต้มต่อแต้ม ก่อนไทยจะหลุดช่วงปลายเซ็ต พ่ายไป 21-25 จีน ออกนำ 1-0
เซ็ตที่สอง ไทยเริ่มต้นได้ดีอีกครั้ง ขยับแต้มหนีไป 5-2 กระทั่งจีนต้องขอเวลานอก เพื่อเบรกเกม แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล สาวไทยยิ่งเล่นยิ่งมั่นใจ โกยแต้มหนีไป 13-5 เจ้าภาพต้องเบรกแก้เกมอีกครั้ง และดูเหมือนจะได้ผล ลดช่องว่างขึ้นมาตามไทย ที่ 14-16 ก่อนไทยจะช็อตไปอีกครั้ง จนแต้มขยับขึ้นมา 21 เท่ากัน โค้ชด่วน แก้เกมด้วยการส่ง วิภาวี ศรีทอง ลงไปช่วย แต่ก็ไม่ทันสุดท้ายพ่ายไป 23-25 จีน นำ 2-0
เซ็ตที่สาม เป็นเจ้าภาพจีน ลงมาเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม ออกมาเร่งเกมบุกทั้งบอลเร็ว และหัวเสา และบล็อกได้ดี ปิดเกมเอาชนะไปในที่สุด 25-15
สรุปผลการแข่งขัน ตบสาวไทย พ่าย จีน 0-3 เซ็ต 21-25, 23-25 และ 15-25 โดยไทย หล่นลงไปแข่งขันในรอบชิงเหรียญทองแดง พบกับทีมชาติเวียดนาม ที่แพ้ญี่ปุ่ย 1-3 เซ็ต แข่งขันในวันที่ 7 ต.ค.66 เวลา 13.30 น. (เวลาประเทศไทย) ที่สนามหางโจว นอร์มอล ยูนิเวอร์ซิตี้ คังเฉียน ยิมเนเซียม
หลังแข่งขัน “โค้ชด่วน” ดนัย ศรีวัชรเมธากุล หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย เปิดเผยว่า เกมนัดนี้เป็นเกมที่ยอมรับว่าหนักมากในเรื่องที่เขาเล่นกับเราในเรื่องของโครงสร้าง แต่ก็มีส่วนหนึ่งที่เราก็ทำได้ดี แต่เขาทำดีกว่า รวมถึงเด็กๆ เองก็พยายามเต็มที่แล้วในเรื่องของการเล่น แต่ก็ยังผิดพลาดในช่วงปลายอยู่ต้องอาศัยความนิ่งมากขึ้น แต่เราก็ยังผ่านจีนไม่ได้อยู่ดี ต้องยอมรับว่าเขาดีกว่า
“ช่วงที่แผ่วปลายเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น จริงๆนักกีฬาได้ดีเกมรับเขาดีกว่าในเรื่องของการบล็อก การดีเฟ้นการโต้กลับของจีนจะได้เปรียบเรามากในเรื่องของความสูง สังเกตดูการยกบอลเค้าจะยกสูงมากจนเราเองไม่สามารถที่จะบล็อกได้ เพราะเขาตีสูงมากต้องยอมรับในส่วนนี้ด้วย”
“โค้ชด่วน” กล่าวเพิ่มเติมว่า รอบชิงทองแดงจะไปเจอกับเวียดนาม และแน่นอนว่า เวียดนามเป็นทีมที่ดีมากและเล่นได้ดีด้วย เพราะฉะนั้นเราเองจะต้องเล่นให้สมบูรณ์มากที่สุด จะประมาทไม่ได้เพราะเวียดนามเขาก็พัฒนาขึ้น แต่เราก็ต้องเก็บรายละเอียดของเราให้ดีและต้องเล่นในรูปแบบของตัวเองให้ได้