ถือเป็นนักเตะชื่อดังของทีมชาติญี่ปุ่นที่แฟนบอลต่างก็รู้จัก และเอาใจช่วยอยู่เสมอ สำหรับ ทาคุมิ มินามิโนะ แนวรุกซามูไร ที่ปัจจุบันค้าแข้งอยู่กับ โมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส
มินามิโนะ เกิดเมื่อวันที่ 16 มกราคม 1995 ในเมืองอิซึมิซาโนะ ประเทศญี่ปุ่น คุณพ่อของเขาตั้งชื่อ “ทาคุมิ” ที่แปลว่า “ออกสำรวจ และหาผลลัพท์ด้วยตัวเอง” ให้กับเขา และมักจะเตือนความจำเขาอยู่เสมอว่า อย่าสูญเสียความหมายในชื่อของตัวเอง
มินามิโนะ เติบโตขึ้นมา โดยมีพี่ชายอีกหนึ่งคนคือ เคนตะ มินามิโนะ ซึ่งพี่ชายคนนี้เปรียบเสมือนผู้ชักนำเขาเข้าสู่วงการฟุตบอล สมัยเด็ก มินามิโนะ พี่ชาย และคุณพ่อ มักจะเตะฟุตบอลเล่นกันที่บ้าน ฝึกเลี้ยงฟุตบอลผ่านกรวย และเมื่อพี่ชายเข้าโรงเรียน ได้อยู่ชมรมฟุตบอล มินามิโนะ ที่เวลาต่อมาได้เข้าโรงเรียนเหมือนกัน ก็เลือกที่จะเดินรอยตามพี่ชาย
ในฟุตบอลโลก ปี 2002 ที่ประเทศญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพร่วมกัน มินามิโนะ ที่อายุ 7 ขวบ ได้มีโอกาสเข้าไปดูฟุตบอโลก ในนัดที่ทีมชาติบราซิลแข่งขัน เขาได้เห็นการเล่นของนักเตะระดับโลกอย่าง โรนัลโด, โรนัลดินโญ่, ริวัลโด และแข้งซุปเปอร์สตาร์บราซิลคนอื่นๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้เขาต้องการจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพให้ได้
เมื่อเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มินามิโนะ ซึ่งเริ่มฉายแววทางด้านฟุตบอล ได้มีโอกาสได้ร่วมทีม เซสเซล คุมาโตริ เอฟซี ก่อนที่จะเข้าศึกษาต่อที่โรงเรียนมัธยมปลายโคคุโกคุ ซึ่งขณะเล่นฟุตบอลในโรงเรียน เขาได้ถูกแมวมองจากสโมสรฟุตบอลเซเรโซ โอซากา เชิญเข้าร่วมการทดสอบกับทีมยู-15 และผ่านการทดสอบเข้าทีมได้ในที่สุด
มินามิโนะ ติดทีมไปแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย 2010 ทั้งยังกลายเป็นดาวซัลโว ประจำการแข่งขัน นั่นทำให้เขากลายเป็นนักเตะดาวรุ่งญี่ปุ่นที่น่าจับตามอง ก่อนที่จะเรียนจบมัธยมปลาย และตัดสินใจไม่เรียนต่อมหาวิทยาลัย เพื่อมุ่งมั่นกับเส้นทางลูกหนังแบบเต็มตัว
หลังจากได้รับสัญญาอาชีพกับทีมชุดใหญ่ของ เซเรโซ โอซาก้า เขาก็โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นมาอย่างต่อเนื่อง จนมีแมวมองจากฝั่งยุโรปให้ความสนใจมากมาย สุดท้ายแล้วเป็น เรดบลู ซัลซ์บวร์ก ที่คว้าตัวเขาไปได้เมื่อปี 2015
เมื่อได้ออกอาละวาดในแผ่นดินยุโรป ทาคุมิ มินามิโนะ ยังคงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะในศึก ยูฟ่า ยูโรป้า ลีก ที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นในปี 2018/19 ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมา 2019/20 ทีมจะได้เล่นใน ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ร่วมกันกับ เออร์ลิง เบาต์ ฮาลันด์ ศูนย์หน้าที่เวลานี้เข้าขั้นระดับโลกไปเรียบร้อย ช่วยกันถล่มประตู ก่อนจะไปสะดุดตาเข้ากับทีม “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ซึ่ง มินามิโนะ เป็นผู้ทำประตูที่ แอนฟิลด์ ได้ด้วย
นั่นทำให้ฤดูกาลต่อมา ลิเวอร์พูล เดินหน้าอย่างเต็มตัวเพื่อที่จะคว้าตัว มินามิโนะ มาร่วมทีม ก่อนที่ มินามิโนะ จะตัดสินใจมาค้าแข้งในพรีเมียร์ ลีก ฝากผลงานกับ เรดบลู ซัลบวร์ก ไว้ที่แชมป์ ออสเตรียน บุนเดสลีก้า 6 สมัย, แชมป์ ออสเตรียน คัพ 4 สมัย ลงเล่น 199 นัด ยิงไป 64 ประตูรวมทุกรายการ
หนึ่งในเหตุผลที่ มินามิโนะ เลือกย้ายมายัง ลิเวอร์พูล เพราะระลึกถึงคำสอนของคุณพ่อ และความหมายของชื่อตัวเองอยู่เสมอ เพราะใครๆต่างก็บอกว่าการไปเล่นใน พรีเมียร์ ลีก นั้นต้องพิสูจน์ตัวเองอย่างมาก และมันก็จริงอย่างที่ใครๆบอก การมาค้าแข้งกับ ลิเวอร์พูล เหมือนเป็นกำแพงที่สูงเกินไปสำหรับ มินามิโนะ เจ้าตัวไม่สามารถสอดแทรกความยอดเยี่ยมของ 3 ประสานในแดนหน้าอย่าง ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โรแบร์โต เฟอร์มิโน ได้ อีกทั้งภายหลัง ดิเอโก โจต้า เข้ามา
ก็ยิ่งทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสลงสนามยิ่งขึ้นไปอีก แม้ในฤดูกาล 2020/21 จะถูกปล่อยให้ เซาแธมป์ตันยืมตัว แต่ก็เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ทำให้อยู่กับ ลิเวอร์พูล 3 ปี เขาลงเล่นไป 55 นัด ยิงไป 14 ประตู รวมทุกรายการ ต้องตัดสินใจเก็บกระเป๋าย้ายทีมไปอยู่กับ โมนาโก ในลีกเอิง ฝรั่งเศส ในฤดูกาลปัจจุบัน
แม้ฟอร์มของ มินามิโนะ จะยังไม่เข้าที่เข้าทาง แต่ก็เรียกปัจจุบันก็เรียกความมั่นใจกลับมาได้บ้าง เขาลงให้กับโมนาโก ไปแล้ว 13 นัด ยิงไป 1 ประตู ในฤดูกาลนี้
ล่าสุด มินามิโนะ มีชื่อติดเป็น 26 ขุนพลทีมชาติญี่ปุ่น ไปฟุตบอลโลก 2022 ซึ่งจะต้องเจอกับคู่แข่งมหากาฬอย่าง เยอรมนี, สเปน, คอสตาริกา ถือเป็นงานที่ยากลำบากแน่นอนสำหรับซามูไรบลู
แต่มองมุมกลับ หากเขายิงประตูได้ต่อเนื่อง นี่อาจจะเป็นทัวร์นาเมนต์ที่ชุบชีวิตเขาขึ้นมาอีกครั้งก็เป็นไปได้ ใครจะรู้จนกว่ามันจะเกิดขึ้น ดั่งชื่อของมินามิโนะ “ทาคุมิ” ที่แปลว่า “ออกสำรวจ และหาผลลัพท์ด้วยตัวเอง”