เคลย์ ธอมป์สัน ชูตติงการ์ดคนดังหวังว่าตัวเองจะสามารถพา ดัลลัส แมฟเวอริกส์ กลับสู่ความยิ่งใหญ่แม้ปัจจุบันจะยังห่างไกลจากจุดดังกล่าว
โดย แมฟเวอริกส์ เกือบจะคว้าแชมป์เอ็นบีเอสมัยที่ 2 ของแฟรนไชส์ต่อจากปี 2011 หลังพวกเขาผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศในฤดูกาลที่แล้วทว่าสุดท้ายไปพ่ายต่อ บอสตัน เซลติกส์ 4-1 เกม
เดิมทีในซีซั่นนี้พวกเขาหมายมั่นปั้นมือว่าจะกลับไปเข้าชิงชนะเลิศให้ได้อีกครั้งถึงกระนั้นสถานการณ์ของทีมกลับเต็มไปด้วยความวุ่นวายทั้งเรื่องผลงานซึ่งย่ำแย่กว่าที่คาดด้วยการอยู่อันดับ 10 ของสายตะวันตก
นอกจากนั้นแล้วพวกเขายังทำเรื่องช็อกด้วยการเทรด ลูกา ดอนซิช ผู้เล่นซูเปอร์สตาร์ของทีมออกไปให้กับ แอลเอ เลเกอร์ส เพื่อแลกกับ แอนโธนี เดวิส ซึ่งหากเทียบผลงานกันแล้ว ดอนซิช ดีกว่ามาก
เท่านั้นยังไม่พอ แมฟเวอริกส์ ยังต้องมาเจอปัญหาเพิ่มเติมเมื่อผู้เล่นความหวังอย่าง ไครี เออร์วิง รวมถึงเดวิส เองกลับมาได้รับบาดเจ็บจนส่งผลให้ทีมแพ้ถึง 8 จาก 10 เกมหลังสุด
กระทั่งล่าสุด ธอมป์สัน ที่ถือว่าเป็นผู้เล่นตัวหลักของทีมเพียงรายเดียวขณะนี้ ยังมองว่า แมฟเวอรริกส์ ยังมีเหลี่ยมมุมให้กลับมาประสบความสำเร็จได้ และเขาอยากจะเป็นคนช่วยให้แฟรนไชส์ไปอนู่ในจุดนั้น
“เราคงมีเป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ เราคงต้องการเดินหน้าต่อไป ปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บเป็นอะไรที่แย่ แต่ผมยังคงรักทีมๆ นี้ เรามีฟรอนต์คอร์ตอันน่าทึ่ง”
“เราคิดถึงพวกเขาเหล่านั้นมากๆ แม้ตอนนี้ทีมดูเสียเปรียบรูปร่างเล็กกว่าคู่แข่งแต่เราพร้อมแสดงจุดแข็งเรื่องหัวจิตหัวใจสามารถทำอะไรได้บ้าง”
“มันคือเรื่องน่าพอใจที่ลงสนามไปสู้เคียงข้างกันกับใครก็ตามที่สวมเครื่องแบบเดียวกัน นั่นคือทั้งหมดที่คุณสามารถควบคุมได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วมันจึงเป็นเรื่องของทัศนนคติ และความบากบั่น”
ทั้งนี้ ธอมป์สัน ย้ายจาก โกลเดน สเตต วอร์ริเออร์ส ซึ่งเจ้าตัวพา “สะพานทอง” คว้าแชมป์เอ็นบีเอมาครองถึง 4 สมัยมาอยู่กับ แมฟเวอริกส์ เมื่อปี 2024 ซึ่งฤดูกาลนี้เขามาสถิติเฉลี่ยทำ 14.3 คะแนนต่อเกม, แอสซิสต์ 2.2 ครั้งต่อเกม และรีบาวด์ 3.6 ครั้งต่อเกมจากการลงสนาม 60 นัดในฤดูกาลปกติ