คลิฟฟ์ ธอร์เบิร์น นักสนุกเกอร์ระดับตำนาน ที่เคยก้าวขึ้นไปคว้าแชมป์รายการ มาสเตอร์ส ให้คำจำกัดความของสนุกเกอร์รายการนี้ ว่า เป็นรายการที่สุดพิเศษสำหรับเขา
ธอร์เบิร์น ตำนานนักสนุกเกอร์จากแคนาดา เคยคว้าแชมป์มาสเตอร์ส มาครอง 3 สมัย กล่าวถึงศึกมาสเตอร์ส ที่จะจัดการแข่งขันเป็นครั้งที่ 50 ในวันที่ 12 มกราคมนี้ ว่า หากไม่นับศึกชิงแชมป์โลก มาสเตอร์ส คือรายการที่เขาโปรดปรานที่สุด
สนุกเกอร์มาสเตอร์ส จัดการแข่งขันครั้งแรกในปี 1975 ธอร์เบิร์น ซึ่งปัจจุบันอายุ 76 ปี กลายเป็นนักสนุกเกอร์อายุมากที่สุด นับเฉพาะยังมีชีวิตอยู่ ที่เคยคว้าแชมป์มาครองในปี 1983, 1985 และ 1986 ทำให้เขาเป็นเพียง 1 ใน 6 ผู้เล่นที่คว้าแชมป์รายการนี้ได้มากกว่า 2 สมัย
“สำหรับสนุกเกอร์ มาสเตอร์ส ยังคงเป็นรายการที่มีเสน่ห์ของตัวเอง เพราะมีเพียงผู้เล่น 16 อันดับแรกของโลกลงแข่งขัน และภาพที่ออกมามันสวยงามทุกอย่าง รายการนี้จัดในลอนดอน หนึ่งในมหานครที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ผู้เล่นต่างต้องการได้เข้าร่วมกาแข่งขัน มันคือรางวัลสำหรับการเป็น 16 อันดับแรก การคว้าแชมป์มาสเตอร์ส เป็นเกียรตยศว่าคุณประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากรายการอื่นๆ และความกดดันในรอบชิงชนะเลิศไม่ได้ด้อยกว่าการแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกในครูซิเบิ้ลเลย”
“ผมยังชอบเดินทางมางานอีเวนต์ที่อเลกซานดร้า พาเลซ สนามแข่งขันที่ยิ่งใหญ่ ผมรุ้ว่าสนุกเกอร์ก้าวไปไกลแล้ว แต่การเชื่อมโยงกับอดีตก็เป็นสิ่งสำคัญ มีการให้เกียรติผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เราร่วมสร้างประวัติศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่นี่ และดีใจที่เรายังรักษาประเพณีบางอย่างเอาไว้ แน่นอนว่าตัวบุคคลย่อมเปลี่ยนไป แต่เกมของสนุกเกอร์นั้น จะมากจะน้อยก็ยังมีความเหมือนเดิม”
สำหรับมือ 16 อันดับแรกในปัจจุบัน ธอร์เบิร์นให้ความชื่นชมต่อ จัดด์ ทรัมป์ มือ 1 ของโลก โดยกล่าวว่า “ผมชอบดูทรัมป์ลงแข่ง ผมดีใจที่เขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับเกมมากขึ้น โดยเฉพาะตอนที่เขาไม่ได้อยุ่ในฟอร์มที่ดีที่สุด เขายังสามารถทำช็อตที่เหลือเชื่อได้เป็นประจำ และหนักแน่นเมื่ออยู่ภายใต้ความกดดัน ผมคิดว่าเขาทำงานหนักมาก มีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมบ้าการฝึกซ้อมชนิดที่ไม่อยากเข้านอน และอยากรีบตื่นเพื่อกลับมาซ้อมต่อ ผมคิดว่าตอนนี้ทรัมป์ก็เป็นแบบผมตอนนั้น”
สำหรับ การแข่งขันสนุกเกอร์ รายการ “เดอะ มาสเตอร์ส 2025” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-19 มกราคม 2025 ที่อเล็กซานดรา พาเลซ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ชิงเงินรางวัลรวม 1,015,000 ปอนด์ หรือราว 43.4 ล้านบาท