มิยุ คาโต นักเทนนิสหญิงชาวญี่ปุ่น รวมถึงคู่ของเธอโดนปรับตกรอบในการแข่งขันแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น 2023 หลังถูกมองว่าตั้งใจหวดลูกใส่เด็กเก็บบอล
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเซ็ตที่ 2 ของการแข่งขันศึกแกรนด์สแลม เฟรนช์ โอเพ่น 2023 ประเภทหญิงคู่ รอบ 16 ทีมสุดท้ายระหว่าง มิยุ คาโตะ นักเทนนิสหญิงชาวญี่ปุ่น ซึ่งจับคู่กับ อัลดีลา ซูจียาดี จากอินโดนีเซีย พบกับคู่ของ มารี บูซโควา จากสาธารณรัฐเช็ก และซารา ซอร์ริเบส ตอร์โม จากสเปน โดยสกอร์เป็นคู่ของ บูซโควา และตอร์โม นำอยู่ 1-0 เว็ต
โดยระหว่างการแข่งขัน คาโต ได้หวดลูกไปโดนเด็กเก็บบอลข้างสนามซึ่งบอลได้ไปโดนที่ไหล่ของฝ่ายหลัง และทิ้งรอยช้ำให้เห็นอย่างชัดเจน
ในตอนแรก คาโต ได้รับคำเตือนจากผู้ตัดสินในเรื่องดังกล่าวถึงกระนั้นจากการที่ บูซโควา และตอร์โม ไปร่วมประท้วงทำให้สุดท้ายมีการตัดสินว่า คาโตะ ทำผิดกฎแบบร้ายแรง และถูกตัดสินให้แพ้บายในทันที แม้ว่าผู้เล่นชาวญี่ปุ่นจะพยายามอธิบายว่า เป็นเรื่องบังเอิญ และเจ้าตัวก็เดินไปขอโทษบอลเกิร์ลแล้วด้วย
หลังจากผลการตัดสินออกมา คาโต ก็เดินออกมาคอร์ตพร้อมน้ำตา โดยมี ซูจียาดี เข้ามาปลอบใจ ส่วนแแฟนๆ ที่เข้ามาชมเกมก็ส่งเสียงโห่ไปที่กรรมการกับคำตัดสินที่เกิดขึ้น
ด้านเจ้าหน้าที่คนหนึ่งในคอร์ตเปรียบเทียบเหตุการณ์ดังกล่าวกับการตัดสิทธิ์ของ โนวัก ยอโควิช จากการแข่งขันแกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น 2020 โดยกล่าวว่า “ถ้าคุณไปชนใครซักคน และพวกเขาได้รับบาดเจ็บ คุณต้องรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น แม้ว่าคุณจะไม่ได้ตั้งใจก็ตาม ยังคงรับผิดชอบต่อการกระทำนั้น”
ขณะที่ บูซโควา และตอร์โม เผยสาเหตุที่ทั้ง 2 คนไปประท้วงกรรมการในเรื่องนี้ว่า “มันยาก ผู้หญิงคนนั้น (เด็กเก็บบอล) ร้องไห้อยู่ 15 นาที ฉันคิดว่าคำเตือนเกิดขึ้นเพราะเขา (ผู้ตัดสิน) ไม่เห็นว่าเธอกำลังร้องไห้และเธอก็เจ็บปวดขนาดนั้น เราบอกเขาว่าเขาควรดูให้มากกว่านี้ เพราะเด็กผู้หญิงกำลังร้องไห้ และบอลพุ่งตรงมาที่เธอ มันเป็นบอลที่แรงมาก เราบอกพวกเขา (คาโต และ ซูจียาดี) โชคร้ายมาก”
ตามกฎของสหพันธ์เทนนิสนานาชาติ (ไอทีเอฟ) ผู้เล่นจะต้องไม่ตี เตะ หรือขว้างลูกเทนนิสด้วยความรุนแรง เป็นอันตราย หรือด้วยความโกรธภายในบริเวณสนามแข่งขัน เว้นแต่เป็นการแสวงหาแต้มตามสมควรระหว่างการแข่งขัน
ไอทีเอฟ ให้คำจำกัดความของการใช้ลูกบอลในทางที่ผิดว่า “จงใจตีลูกบอลออกจากพื้นที่ปิดของคอร์ต การตีลูกบอลอย่างอันตรายหรือประมาทเลินเล่อภายในคอร์ต หรือการตีลูกบอลโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมา”