ถือเป็นปราการหลังดาวรุ่งที่กำลังมาแรงของวงการฟุตบอลเยอรมนี ทีเดียวสำหรับ นิโก ชลอตเตอร์เบ๊ก เซ็นเตอร์แบ็กวัย 23 ปี ของ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์
นิโก เซดริก ชลอตเตอร์เบ๊ก เกิดเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 1999 ที่เมือง ไวบลิงเกน ประเทศเยอรมนี โดยสมัยเด็กๆนั้นพ่อแม่เขาค่อนข้างเข้มงวด ไม่ยอมให้เขา และพี่ชายเข้าถึงโทรศัพท์มือถือเท่าไหร่นัก ทำให้ห่างไกลจากเกม หรือสื่อบันเทิงเขาอื่นๆ ซึ่งกิจกรรมที่ทำให้เขาสนุกและเพลิดเพลินในแต่ละวันนั่นคือการเล่นฟุตบอล พร้อมกับใฝ่ฝันจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ
คุณพ่อคุณแม่ของเขาได้ฝากฝังให้ลูกชายทั้งสองคนเข้าโรงเรียน พร้อมกับสถาบันสอนฟุตบอล SG Weinstadt ซึ่งเป็นสถาบันการศึกษาในท้องถิ่นในชุมชน โดยเชื่อว่าลูกชายของเขาจะสนุกไปกับความสำเร็จ หากได้เริ่มต้นจากพื้นฐาน อย่างไรก็ตามเมื่อถึงจุดหนึ่ง คุณแม่เริ่มจะลังเลว่าจะให้ลูกชายมุ่งมั่นไปกับการเรียนอย่างเดียวดีหรือไม่ แต่แล้ว นีล ชลอตเตอร์เบ๊ก คุณลุงของเขาก็เข้ามาสอดแทรกระหว่างการถกเถียงของพ่อแม่ และพาเขาและพี่ชายเข้าสู่อคาเดมี ที่ลุงเขาเป็นเจ้าของอยู่ด้วย
นิโก ชลอตเตอร์เบ๊ก ได้รับการฝึกฝนฟุตบอลจากจากทั้ง SG Weinstadt และอคาเดมีของลุงอยู่ 2-3 ปี ทำให้ทักษะฟุตบอลของเขาพัฒนาไปอยางมาก รวมถึงมีความกล้าหาญ และจิตใจที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย
เมื่ออายุได้ 8 ขวบ พ่อของเขาคิดว่า ชลอตเตอร์เบ๊ก พร้อมที่จะได้รับการฝึกซ้อมที่สูงขึ้นไปอีกระดับ จึงพาเขาไปเข้ากับอคาเดมีของ สตุ๊ตการ์ด อย่างไรก็ตามเมื่อมายังที่แห่งนี้ เขาต้องพบเจอกับสถานการณ์ที่ค่อนข้างลำบาก เมื่อไม่สามารถเค้นฟอร์มการเล่นที่ดีออกมาเอาชนะใจโค้ชได้ ทำให้มักจะต้องตกเป็นตัวสำรองของทีมเสมอเวลาแข่งขัน และไม่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นสู่ทีม ยู-16 สุดท้ายต้องย้ายไปอยู่กับ วีเอฟอาร์ อาเลน ในเวลาต่อมา และในปี 2015 ก็ย้ายไปอยู่กับ คาร์สรูห์ เอสซี
ชลอตเตอร์เบ๊ก พยายามพัฒนาตัวเองอย่างมากนับจากที่ผิดหวังกับ สตุ๊ตการ์ด ทำให้การเล่นของเขาค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ เขามีความโดดเด่นในเรื่องการป้องกันลูกกลางอากาศ ด้วยความสูงถึง 191 ซม. ทั้งยังมีความกล้าหาญในการเข้าปะทะ จนได้รับความไว้วางใจที่ คาร์สรูห์ ก่อนจะได้รับการระบุว่าเหมือนกำลังได้ดู มัตส์ ฮุมเมิลส์ ปราการหลังทีมชาติเยอรมนีในวัยหนุ่ม
ปี 2017 ชลอตเตอร์เบ๊ก ถูกเรียกตัวติดทีมชาติเยอรมนี ชุดยู-18 ครั้งแรก พร้อมกับได้ย้ายไปอยู่กับ เอสซี ไฟร์บวร์ก และเพียง 1 ปีเท่านั้น ก็ถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมสำรอง พร้อมกับค่อยๆได้รับโอกาสลงสนามกับทีมชุดใหญ่
ปี 2020/21 เขาถูก อูนิโอน เบอร์ลิน ยืมตัวไปใช้งาน ก่อนจะกลับมาเป็นปราการหลังตัวหลักของไฟร์บวร์ก อย่างเต็มตัวในปี 2021/22 ลงสนามไป 38 นัด ทำประตูได้ถึง 4 ประตู พาทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เดเอฟเบ โพคาล ทั้งยังพาเยอรมนี ยู-21 คว้าแชมป์ยุโรป
ด้วยฟอร์มการเล่นอันโดดเด่น และยอดเยี่ยมที่พัฒนาอย่างต่อเนื่องทำให้ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ ตัดสินใจดึงตัวเขามาร่วมทีมด้วยค่าตัว 25 ล้านยูโร ในฤดูกาลปัจจุบัน
แต่ไหนแต่ไรเยอรมนี ไม่เคยขาดปราการหลังดีๆ และ ชลอตเตอร์เบ๊ก คือหนึ่งในนักเตะที่กำลังถูกรวมอยู่ในนั้น