ปอล ป็อกบา กองหน้าชาวฝรั่งเศส เปิดใจให้สัมภาษณ์ หลังจากที่ถูกแบนจากวงการฟุตบอลเป็นเวลา 4 ปี หลังถูกตรวจพบว่าใช้สารกระตุ้น
ก่อนหน้านี้นักเตะวัย 31 ปีถูกสั่งห้ามลงสนามตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังถูกจับตรวจสารกระตุ้น ในเกมกัลโช เซเรีย อา นัดที่ ยูเวนตุส ต้นสังกัด พบกับ อูดิเนเซ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคมปีก่อน โดยผลการตรวจออกมาว่า เจ้าตัวมีฮอร์โมนเทสโทสเตอโรนสูงเกินเกณฑ์ ก่อนที่ผลการตรวจรอบสอง ก็ยังคงออกมาเป็นบวก
จากผลดังกล่าวทำให้ ปอล ป็อกบา ถูกศาลต่อต้านการใช้สารต้องห้ามแห่งชาติของอิตาลีสั่งแบน ห้ามยุ่งเกี่ยวกับกิจกรรมฟุตบอลเป็นเวลา 4 ปี โดยโทษแบนนี้ส่งผลต่ออาชีพการค้าแข้งของเจ้าตัวอย่างมาก เนื่องจากหากหลุดพ้นโทษแบน ซึ่งจะสิ้นสุดในปี 2028 แข้งรายนี้จะมีอายุ 34 ปีไปแล้ว
ล่าสุดกองหน้าชาวฝรั่งเศส เปิดใจถึงเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง โดยระบุว่าบทลงโทษดังกล่าวเหมือนกับเขาได้ตายทั้งเป็น และอาชีพการค้าแข้งของเขาได้จบลงแล้ว
โดย ป็อกบา กล่าวว่า “สำหรับผมมันจบแล้ว ผมเหมือนตายทั้งเป็น ไม่มี ปอล ป็อกบา อีกต่อไป ตอนนี้ผมแทบไม่รู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร”
“ฟุตบอลคือทุกอย่างในชีวิตของผม ผมรู้สึกสูญเสียความเป็นตัวเองไปทั้งหมด การถูกแบนถึง 4 ปี มันยาวนานเกินไปสำหรับผม ผมหวังว่าผมจะค้นหาตัวเองเจอ และกลับมาเล่นฟุตบอลได้อีก
สำหรับกรณีของ ป็อกบา เจ้าตัวถูกตรวจพบสาร ฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งเป็นฮอร์โมนเพศชาย ที่ช่วยเพิ่มขนาดและความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ รวมถึงช่วยเรื่องการฟื้นร่างกายจากการออกกำลังกายได้เร็วขึ้น ซึ่งเขาชี้แจงว่า สารกระตุ้นดังกล่าวมาจากปนเปื้อนของอาหารเสริม ตามคำสั่งของแพทย์ระหว่าง รักษาอาการบาดเจ็บที่ สหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตามหลังจากที่แยกทางกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมดังแห่งศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก เพื่อไปค้าแข้งกับ ยูเวนตุส ต้นสังกัดปัจจุบันอีกครั้ง ในปี 2022 ด้วยสัญญา 4 ปี แต่เนื่องจากอาการบาดเจ็บทำให้เขาไม่ได้ลงสนามเท่าที่ควร ซึ่งฤดูกาลก่อนเขาลงสนามช่วยยูเวไปเพียง 51 นาทีเท่านั้น ในเกมกับโบโลญญา และ เอ็มโปลี ด้วยฐานะตัวสำรองทั้งสองนัด ซึ่งในเกมกับเอ็มโปลี เจ้าตัวก็มีปัญหาด้านกล้ามเนื้อด้วย
ซึ่งหลังจากที่เขาถูกแบนนั้น ทางต้นสังกัดอย่าง ยูเวนตุส ก็ออกแถลงการณ์ว่านักเตะจะถูกห้ามลงสนามเป็นการชั่วคราว และเมื่อช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมาก็มีรายงานจากสื่อระบุว่า ทีมม้าลาย เตรียมยกเลิกสัญญากับนักเตะ เนื่องมาจากประเด็นดังกล่าวด้วย
