แฟนบอล “ปีศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีประเด็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของทีมและสโมสรออกมาให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งจะมีการแถลงยืนยันว่า เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ สามารถบรรลุการซื้อหุ้นสโมสร 25% เรียบร้อยแล้ว ด้วยมูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยเรื่องตัวเลขของ หุ้นจำนวนนี้แรตคลิฟฟ์ได้ซื้อด้วยเงินจำนวน 1,300 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 45,000 ล้านบาท และนักธุรกิจรายนี้จะลงทุนเพิ่มเติมอีก 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 10,000 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของแมนฯ ยูไนเต็ด รวมถึงตัวสนามโอลด์ แทรฟฟอร์ด
ทั้งนี้เดิมทีแล้วแรตคลิฟฟ์เป็นหนึ่งในกลุ่มทุนที่ยื่นข้อเสนอเพื่อหวังเทคโอเวอร์แมนฯ ยูไนเต็ด จากตระกูลเกลเซอร์ ครอบครัวนักธุรกิจชาวอเมริกัน แต่หลังจากที่การเจรจาไร้ความคืบหน้า แรตคลิฟฟ์จึงเปลี่ยนมาเป็นขอซื้อหุ้นบางส่วนแทน กระทั่งบรรลุผลดังกล่าว
ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์หลังจากสามารถซื้อหุ้นผีแดงได้ว่า
“ในฐานะเด็กท้องถิ่นและแฟนบอลของสโมสรมาตลอดทั้งชีวิต ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่เราสามารถบรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการบริหารแมนฯ ยูไนเต็ด ที่มอบหมายให้เรารับผิดชอบงานด้านฟุตบอลของสโมสร”
และจากประเด็นดังกล่าวทำให้ล่าสุดมีการเปิดเผยว่าการเข้ามาของเซอร์จิมนั้นอาจทำให้สโมสรมีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของทัพนักเตะด้วยเช่นกัน
โดยมีรายงานจากสื่อในต่างประเทศที่ระบุว่า เซอร์จิม แรตคลิฟฟ์ ส่อแววที่จะทำการโละ 7 นักเตะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกจากทีมเพื่อเป็นการปรับปรุงขุมกำลังหลังเข้าซื้อหุ้นสโมสร
และจากการเข้าครอบครองหุ้นในครั้งนี้ อีนิออส ซึ่งเป็นบริษัทของแรตคลิฟฟ์ จะได้รับมอบหน้าที่ในการบริหารกิจการด้านฟุตบอลของสโมสรทั้งทีมชาย, หญิง และทีมอะคาเดมี รวมถึงยังมีตำแหน่งในคณะกรรมการบริหารสโมสร
ก่อนที่ล่าสุด “เดอะ ซัน” สื่ออังกฤษระบุว่า นักธุรกิจวัย 71 ปีรายนี้เตรียมยกเครื่องขุมกำลังนักเตะใหม่ และมี 7 แข้งที่เสี่ยงจะโดนโละพ้นทีม ประกอบด้วย เจดอน ซานโช, อันโตนี, ราฟาเอล วาราน, แฮร์รี แม็กไกวร์, อ็องเดร โอนานา, บรูโน แฟร์นานเดส และคาเซมิโร
นอกจากนั้นแล้วมีรายงานเพิ่มเติมว่า แรตคลิฟฟ์ กำลังทบทวนเรื่องการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสโมสร และทบทวนอนาคตของ อีริก เทน ฮาก ผู้จัดการทีมด้วย
สำหรับผลงานของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการแข่งขันฤดูกาล 2023-24 เรียกได้ว่าค่อนข้างไม่ค่อยน่าประทับใจ โดยเฉพาะในส่วนของฟุตบอลถ้วยยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ที่พวกเขาต้องตกรอบไปแล้ว แถมยังเป็นอันดับสุดของกลุ่มอีกด้วย