หลังจาก มาร์ก เซลบี้ มือ 5 ของโลกจากอังกฤษ เอาชนะ สตีเฟ่น แมกไกวร์ มือ 22 ของโลกจากสกอตแลนด์ 9-6 เฟรม ในรอบชิงชนะเลิศ ศึกสนุกเกอร์ เวลช์ โอเพ่น 2025 คว้าแชมป์พร้อมเงินรางวัล 100,000 ปอนด์ หรือราว 4.2 ล้านบาท
ล่าสุด เซลบี้ เปิดเผยว่า “ตอนที่นำ 6-5 ผมพลาดแดงง่ายๆ แล้วสตีเฟ่นก็ทำเบรกแซงชนะผม นั่นอาจจะเป็นจุดพลิกผันของแมตช์ แต่ผมยังรวบรวมสมาธิแล้วเอาชนะได้ในเฟรมถัดมา และผมก็ทำได้ในช่วงสำคัญ ๆ ซึ่งสร้างความแตกต่างให้เกิดขึ้น ผมดีใจที่ได้เล่นกับสตีเฟ่นที่กลับมาเล่นได้ดี และได้เข้าชิงชนะเลิศอีกครั้ง เพราะเขาคือผู้เล่นที่มีคลาส”
ด้านแมกไกวร์ที่ผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศของรายการเก็บคะแนนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 แม้จะพลาดคว้าแชมป์รายการที่ 6 ในอาชีพ แต่ก็ถือว่าประสบความสำเร็จ เงินรางวัล 45,000 ปอนด์ ช่วยให้เขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับ 23 ในตารางอันดับหนึ่งปี โดยเจ้าตัวกล่าวว่า “ผมอยากขอบคุณกองเชียร์ทุกคน มันเหลือเชื่อมากที่ได้รับเสียงเชียร์มากขนาดนี้ ตอนที่ผมตีเสมอ 6-6 ผมอยากจะเล่นต่อทันที แต่ช่วงพักมาผิดเวลา หลังจากนั้นผมแทบไม่มีโอกาสเลย เพราะมาร์กเล่นได้ยอดเยี่ยมมาก”
การแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่เข้มข้นที่สุดของทัวร์นาเมนต์ โดยทั้งสองฝ่ายต่างงัดฟอร์มที่ดีที่สุดออกมาโชว์ แมกไกวร์แม้จะเป็นฝ่ายตามหลังก่อนในช่วงแรก แต่ก็สามารถไล่ตีเสมอได้หลายครั้ง โดยเฉพาะช่วงที่ไล่ตามมา 6-6 เฟรม สร้างความกดดันให้กับเซลบี้ไม่น้อย อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์และความนิ่งของเซลบี้ช่วยให้เขากลับมาเป็นฝ่ายคุมเกมในช่วงท้าย และสามารถเร่งเครื่องปิดเกมได้สำเร็จในที่สุด
การคว้าแชมป์ครั้งนี้ทำให้เซลบี้เก็บแชมป์รายการเก็บคะแนนสะสมเป็นรายการที่ 24 เทียบเท่ากับ นีล โรเบิร์ตสัน ซึ่งอยู่ในอันดับ 7 ของนักสนุกเกอร์ที่คว้าแชมป์รายการเก็บคะแนนมากที่สุด โดยเป็นรองเพียง รอนนี โอซุลลิแวน (41 แชมป์), สตีเฟ่น เฮนดรี้ (36), จอห์น ฮิกกิ้นส์ (31), จัดด์ ทรัมป์ (30), สตีฟ เดวิส (28) และ มาร์ก วิลเลียมส์ (26) นอกจากนี้ การคว้าแชมป์ครั้งนี้ยังช่วยให้เซลบี้ขยับอันดับโลกขึ้นมาอยู่ที่ 3 ตามหลัง จัดด์ ทรัมป์ และ ไคเรน วิลสัน ส่วนในตารางอันดับหนึ่งปีล่าสุด เขาขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4
สำหรับ มาร์ก เซลบี้ เป็นที่รู้จักในวงการสนุกเกอร์ด้วยฉายา “The Jester from Leicester” เนื่องจากสไตล์การเล่นที่มีความยืดหยุ่นและความสามารถในการเล่นลูกยาก เขาเริ่มต้นอาชีพนักสนุกเกอร์ตั้งแต่อายุ 16 ปี และสามารถคว้าแชมป์โลกครั้งแรกในปี 2014 นับตั้งแต่นั้นมา เขายังคงรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและคว้าแชมป์รายการใหญ่ ๆ อย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามช่วงท้ายฤดูกาลก่อน เขามีปัญหากับฟอร์มการเล่นและสภาพจิตใจจนแทบไม่ได้ลุ้นแชมป์ในรายการสำคัญ อย่างไรก็ตาม การคว้าแชมป์ เวลช์ โอเพ่น ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเขา และอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการลุ้นแชมป์โลกในปีนี้ด้วย โดยเขายังคงมีโอกาสไล่ล่าความสำเร็จต่อไปในการแข่งขันที่เหลือของฤดูกาล
