ประวัตินักกีฬา

มิไคโล มูดริก ปีกคนใหม่มูลค่า 100 ล้านยูโร ของ เชลซี

เชลซี

 กลายเป็นที่ฮือฮาในโลกฟุตบอลอีกครั้ง หลังจาก เชลซี ยอมควักเงินสูงถึง 100 ล้านยูโร กระชากตัว มิไคโล มูดริก ปีกวัย 22 ปี ทีมชาติยูเครน มาจาก ชักตาร์ โดเนตส์ก

 ประวัติของ มิไคโล เปโตรวิช มูดริก เกิดเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2001 ที่เมือง คราสโนห์รัด ประเทศยูเครน เขาเป็นคนที่หลงไหลในเกมฟุตบอลมาตั้งแต่ยังเด็ก ขณะที่บุคลิกส่วนตัวก็ถือเป็นคนที่เคร่งศาสนา โดยได้รับอิทธิพลมาจากคุณย่า เนื่องจากตอนเด็กนั้นเขาเป็นโรคกลัวความมืดทำให้นอนไม่หลับ กระทั่งคุณย่าสอนให้เขารู้จักการขอพร ทำให้นับแต่นั้นเป็นต้นมาเขายึดหลักคำสอนในการดำรงชีวิต พร้อมกับสักเกี่ยวกับศาสนาตามตัวในตอนโต เพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจอีกด้วย

 บ่อยครั้งที่ในช่วงวันหยุดของ มูดริก จะออกไปเตะฟุตบอลกับเพื่อนๆทั้งวันทั้งคืน จนคุณแม่ต้องโทรตามให้เขากลับมาทานข้าว แต่เขาก็ไม่ค่อยจะสนใจสายเรียกเข้าของคุณแม่เท่าไหร่ เหตุผลเดียวที่จะทำให้เขากลับบ้านคือ เหนื่อยจนทนไม่ไหวต้องกลับมาดื่มน้ำ ซึ่งช่วงเวลาตอนนั้นเป็นช่วงที่ความฝันของเขากำลังผลิบาน และมุ่งมั่นจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างยิ่ง

 มูดริก ได้เข้าไปฝึกฝนกับ เคอร์เคียฟ เมตาลิสต์ อคาเดมี ตอนอายุ 9 ขวบ ซึ่ง 4 ปีในที่แห่งนี้ช่วยทำให้เขาเรียนรู้พื้นฐาน และวิธีการเล่นฟุตบอลในการก้าวไปสู่การเป็นฟุตบอลอาชีพ กระทั่งเขารู้สึกว่าตัวเองจำเป็นต้องก้าวไปสู่สโมสรที่ใหญ่กว่าเพื่อเติมเต็มความฝัน ทำให้ปี 2014 เขาจึงไปทดสอบฝีเท้ากับ ดนีโปร ซึ่งมีการแข่งขันที่สูงกว่า ก่อนที่ปี 2016 จะเป็น ชักห์ตาร์ โดเนตส์ก ซึ่งเห็นแววและดึงตัวเขาไปร่วมทีมในปี 2016 

มิไคโล มูดริก

 พรสวรรค์ของ มูดริก นั้นเป็นที่พูดถึงอย่างมากในยูเครน นั่นทำให้เขาติดทีมชาติยูเครน ชุดยู-16 ปีครั้งแรก ก่อนที่ในปี 2018 เขาจะถูกดันขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่ของ ชักห์ตาร์ โดเนสต์ก 

 อย่างไรก็ตามด้วยความที่อายุยังน้อย และยังจำเป็นต้องขัดเกลาฝีเท้าอีกสักระยะในการยืนระยะเป็นตัวจริงของทีม ทำให้ในปี 2019 เขาถูกปล่อยไปให้ อาร์เซนอล เคียฟ ยืมตัวไปใช้งาน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ และพัฒนาฝีเท้าให้ดียิ่งขึ้น 

 แม้จะทำผลงานได้เป็นที่น่าพอใจกับ อาร์เซนอล เคียฟ แต่เมื่อกลับมา ชักห์ตาร์ โดเนตส์ก ก็ยังคงไม่มีพื้นที่ตัวจริงให้เขาเล่น ทำให้ถูกจับลงไปเล่นกับทีมสำรองระยะหนึ่ง ก่อนที่ในปี 2020 เขาจะถูกปล่อยยืมตัวอีกครั้งไปเล่นกับ เดส เชอร์นิเฮียฟ 

 ในการยืมตัวไปในครั้งนี้ มูดริก ประสบปัญหาในการปรับตัว และไม่ค่อยได้ลงเล่นเท่าที่ควร แต่แล้วโชคชะตาของเขาเปลี่ยนไป เมื่อ โรแบร์โต เดอ เซอร์บี กุนซือชาวอิตาลี ย้ายเข้ามาคุมทัพ ชักห์ตาร์ โดเนสต์ก และสิ่งแรกที่เขาทำคือการเรียก มูดริก ที่ถูกยืมตัวไปกลับมาสู่ทีม พร้อมกับตั้งคำถามกับเขาว่า “คุณจะมาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมของผม หรือไม่ก็เลิกเล่นฟุตบอลไปซะ”

 ภายใต้การนำของโค้ชอิตาลี มูดริก ได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติ และวิธีการเล่น นั่นทำให้เขามีฟอร์มอันโดดเด่น เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ โดย เซอร์บี ได้ระบุเพิ่มเติมเกี่ยวกับ มูดริก เอาไว้ว่า “ถ้าผมพา มูดริก ไปสู่ระดับสูงไม่ได้ ถือว่าผมพ่ายแพ้เป็นการส่วนตัว”

 เห็นได้ชัดว่า กุนซือชาวอิตาลีรายนี้ ชื่นชอบ มูดริก เป็นอย่างมาก แม้กระทั่ง ดาริโย เซอร์นา ผู้อำนวยการของชักห์ตาร์ ก็ยังออกมายกย่อง มูดริก ในเวลาต่อมาว่า เป็นนักเตะที่ดีที่สุดในโลกในตำแหน่งริมเส้น รองจาก วินิซิอุส จูเนียร์ และ คีลิยัน เอ็มบัปเป

 มูดริก ฟอร์มดีมาตั้งแต่ฤดูกาล 2021/22 ก่อนจะมาโดดเด่นจริงๆในฤดูกาลล่าสุด ที่ลงสนามไป 18 นัด ยิงไปถึง 10 ประตู และด้วยผลงานนี้เองทำให้ เชลซี ที่กำลังระส่ำและต้องการนักเตะมาช่วยผยุงผลงานให้ดีขึ้นยอมทุ่มเงินกว่า 100 ล้านยูโร ดึงตัว มูดริก มาร่วมทีม

 คงต้องมาดูกันปีกชาวยูเครน รายนี้ จะช่วยทำให้ เชลซี มีฟอร์มที่ดีขึ้นอย่างที่แฟนๆหวังไว้หรือไม่ ค่าตัว 100 ล้านยูโร จะคุ้มค่าหรือเปล่า แต่ที่การันตีได้อย่างหนึ่งคือการมาของ มูดริก จะทำให้เชลซี กลายเป็นทีมที่มีแนวรุกน่ากลัวขึ้นแน่นอน

Most Popular

To Top