ประวัตินักกีฬา

ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน ดาวยิงฟอร์มเด่น ความหวังใหม่ในแดนหน้า วูล์ฟ

ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน

กำลังเป็นอีกหนึ่งนักเตะที่ฟอร์มดีในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ สำหรับ ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน ศูนย์หน้าร่างใหญ่วัย 24 ปี ของ วูล์ฟแฮมป์ตัน ที่ล่าสุดเพิ่งทำประตูได้ในเกมพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อคืนวันที่ 20 ตุลาคม 2000

 ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน เกิดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่เมืองฮัลเดน ประเทศนอร์เวย์ เขาเริ่มเส้นทางลูกหนังจากการเป็นเด็กเยาวชนของ ควิก ฮัลเดน กระทั่งอายุได้ 15 ปี ก็ได้ย้ายไปอยู่กับ ซาร์ปสบอร์ก และพัฒนาฝีเท้าขึ้นมาได้อย่างน่าชื่นชม

 จากนั้นตอนอายุได้ 17 ปี เขามีโอกาสได้ไปฝึกฝนฝีเท้ากับ เอซี มิลาน ยอดทีมในเซเรีย อา อิตาลี ด้วย ในลักษณะสัญญายืมตัว จากนั้นเมื่อกลับมา เขาก็ได้สัญญาอาชีพกับ ซาร์ปสบอร์ก และถูกดันขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ก่อนจะค่อยๆได้รับโอกาส และเป็นตัวจริงของทีมอย่างเต็มตัวในฤดูกาล 2019 

 ลาร์เซน นั้นเป็นนักเตะศูนย์หน้าที่มีร่างกายแข็งแกร่ง และมีความสูง ทำให้เขามีจุดเด่นอย่างมากในลูกกลางอากาศ นอกจากนี้เขายังเต็มไปด้วยเทคนิก และสามารถพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษได้เอง ทำให้เขาค่อนข้างจะเป็นดาวยิงที่ครบเครื่อง 

ยอร์เกน สแตรนด์ ลาร์เซน

ฤดูกาล 2020/21 เป็นโกรนิงเกน ในเอเรดิวิซี ลีก เนเธอร์แลนด์ ที่คว้าตัวเขาไปร่วมทีม โดยซีซั่นแรง ลาร์เซน ยิงให้ทีมไป 9 ประตู จากการลงสนามไป 32 นัด ก่อนจะมาพีกสุดขีดในฤดูกาล 2021/22 ที่ซัดไปถึง 17 ประตู จากการลงสนาม 35 นัด จนกลายเป็นที่หมายปองของหลายทีม สุดท้ายเป็น เซลตา บีโก ในลาลีก้า สเปน ที่คว้าตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2022/23

 ปีแรกในสเปนนั้น ลาร์เซน ยังไม่เด่นเท่าไหร่ เพราะลงสนามไป 35 นัด ยิงไป 5 ลูก แต่ในฤดูกาลต่อมา 2023/24 เขากลับมามีฟอร์มที่ดีอีกครั้ง ยิงไป 13 ประตู จากการลงเล่น 39 นัด ทำให้เขากลายเป็นที่สนใจอีกครั้ง

 ล่าสุดในฤดูกาล 2024/25 วูล์ฟแฮมป์ตัน ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ยื่นข้อเสนอขอยืมตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่ง ลาร์เซน ก็อยู่ในช่วงที่กำลังปรับตัวกับลีกใหม่ และทีมใหม่ และกำลังมีฟอร์มการเล่นที่ดีวันดีคืน

 ขณะที่ในส่วนของทีมชาติ ลาร์เซน นั้นได้รับการจับตามองมาตั้งแต่เด็ก และถูกเรียกติดทีมชุดเยาวชน มาทุกรุ่นอายุ ก่อนจะถูกดันขึ้นสู่ทีมชาตินอร์เวย์ ชุดใหญ่ ในปี 2020 ซึ่งปัจจุบันลงเล่นไปแล้ว 17 นัด ยิงไป 3 ประตู

 ถือเป็นอีกหนึ่งศูนย์หน้าในพรีเมียร์ ลีก ที่น่าจับตาต่อจากนี้ คงต้องมาดูกันว่า ลาร์เซน จะพัฒนาฝีเท้าของตัวเอง และรักษาฟอร์มของตัวเองต่อไปได้ขนาดไหน

Click to comment

Leave a Reply

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Most Popular

To Top