ทนายความด้านตรวจคนเข้าเมือง แสดงความคิดเห็นว่าการที่ โนวัก ยอโควิช อดีตนักเทนนิสชายมือ 1 โลกชาวเซอร์เบียจะได้รับอนุญาตให้ลงแข่งขันในศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 นั้นจะส่งผลดีต่อประเทศ
โดย ยอโควิช ไม่ได้ลงแข่งขันในศึกแกรนด์สแลมแรกออสเตรเลียน โอเพ่น 2022 เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากปัญเรื่องการที่เขาไม่ยอมฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสโควิด-19 ซึ่งผิดกฎการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย
จากเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ ยอโควิช ที่เดินทางเข้ามาสู่ออสเตรเลียแล้วในขณะนั้นต้องโดนยกเลิกวีซ่า และถูกเนรเทศออกจากประเทศทันที จนกลายเป็นข่าวใหญ่ของวงการเทนนิสโลก นอกจากนั้นแล้วแร็กเก็ตวัย 35 ปียังโดนโทษแบนห้ามเข้าออสเตรเลียอีก 3 ปี
หลังจากนั้น ยอโควิช ก็ชวดลงแข่งขันในศึกแรนด์สแลมอีกรายการ นั่นก็คือ ยูเอส โอเพ่น 2022 ซึ่งเป็นแกรนด์สแลมสุดท้ายของปีเนื่องจากกรณีที่ไม่ฉีดวัคซีนเช่นกัน
ถึงกระนั้นในช่วงที่ผ่านมา ยอโควิช มักจะออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เขาต้องการกลับไปเล่นในศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 และหวังว่าจะได้รับการผ่อนปรน รวมถึงปลดโทษแบนเข้าประเทศ
กระทั่งในเดือนกรกฎาคมรัฐบาลออสเตรเลีย ได้เปลี่ยนแปลงกฎในการเดินทางเข้าประเทศด้วยการอนุญาตให้คนที่ไม่ฉีดวัคซีนเดินทางเข้าประเทศได้แล้ว และอาจจะยกเลิกโทษแบนของคนที่โดนยกเลิกวีซ่าก่อนหน้านี้
นั่นหมายความว่าแชมป์แกรนด์สแลม 21 สมัยจะพ้นโทษแบน และเดินทางเข้าชิงชัยในรายการใหญ่ที่ออสเตรเลียได้แบบไม่มีปัญหาอีกครั้ง
จนล่าสุด คน-หมิง ไซ ทนายความด้านตรวจคนเข้าเมืองแสดงความเห็นว่าการที่อนุญาตให้ ยอโควิช ลงเล่นออสเตรเลียน โอเพ่น 2023 จะส่งผลดีต่อประเทศมากกว่าผลเสียอย่างแน่นอน “ที่นี่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เขากลับเข้ามาได้ เขาจะไม่สร้างปัญหาให้กับชุมชน เขาเป็นหนึ่งในนักเทนนิสที่เก่งที่สุดในโลกและจะสามารถดึงดูดผู้เข้าชมจากต่างประเทศได้มากมาย”
ปัจจุบัน ยอโควิช ร่วงมาอยู่ในอันดับ 7 ของโลกจากการคว้าแชมป์แกรนด์สแลมได้ 1 จาก 4 รายการ นั่นก็คือ วิมเบิลดัน ด้วยการเอาชนะ นิก คีร์กีออส จากออสเตรเลีย 3-1 เซ็ต 4–6, 6–3, 6–4, 7–6(7–3) ถึงกระนั้นเจ้าตัวยังมีแชมป์ของเอทีพีติดมือมาแล้ว 3 รายการ ประกอบด้วย อิตาเลียน โอเพ่น, เทล อาวีฟ โอเพ่น และล่าสุดคือ แอสตานา โอเพ่น