กลายเป็นซูเปอร์ซับชั้นยอดของ นิวคาสเซิล สำหรับ ยาคอบ เมอร์ฟี ริมเส้นวัย 28 ปี ที่กลับมาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมในยุคของ เอ็ดดี ฮาว กุนซือคนปัจจุบัน
ยาคอบ ไค เมอร์ฟี เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 1995 ที่เมืองเวมบลี ประเทศอังกฤษ เขาและพี่ชายชื่นชอบฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก ทุกวันเพื่อนบ้านมักจะเห็นเขาและพี่ชายขลุกกันเล่นแต่ฟุตบอลอยู่เสมอ
เมอร์ฟี และพี่ชายสามารถคัดฝีเท้าเข้าไปเล่นกับทีมเยาวชนของ นอร์วิช ซิตี้ ด้วยกันทั้งคู่ เขาค่อนข้างโดดเด่นด้วยความเร็ว และการเลี้ยงกินตัวคู่แข่ง กระทั่งปี 2013 เมื่อ เมอร์ฟี อายุได้ 18 ปี เขาก็ถูกดันขึ้นสู่ทีม นอร์วิช ชุดใหญ่
อย่างไรก็ตาม เมอร์ฟี ไม่ค่อยได้รับโอกาสลงสนามมากนัก ทำให้สโมสรจำต้องปล่อยเขาออกไปให้ทีมอื่นยืมตัว และเมอร์ฟี ก็ต้องย้ายไปเล่นกับหลายๆทีมไม่ว่าจะเป็น สวินดอน ทาวน์, เซาธ์เอนด์ ยูไนเต็ด, แบล็คพูล, สคันธอร์ป ยูไนเต็ด, โคลเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และโคเวนทรี
การได้มาอยู่กับ โคเวนทรี ถือเป็นจุดเปลี่ยนของ ยาคอบ เมอร์ฟี อยู่เหมือนกัน เพราะเขาได้รับโอกาสให้ลงเป็นตัวหลักของทีม โดยลงสนามไป 42 นัด ยิงไป 10 ประตู ซึ่งด้วยฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ ไปเข้าตาของ นิวคาสเซิล ในพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ก่อนจะดึงเขามาร่วมทีมในฤดูกาล 2017/18
อย่างไรก็ตามฟอร์มของ เมอร์ฟี ใช่ว่าจะดีนัก เขาลงสนามให้ นิวคาสเซิล 28 นัด ยิงไปเพียง 1 ประตูเท่านั้น ทำให้ ฤดูกาลต่อมา 2018/19 นิวคาสเซิล ต้องปล่อยเขาออกไปให้ เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ในแชมเปี้ยนชิพ ยืมตัวไปใช้งาน ต่อด้วยฤดูกาล 2019/20 ปล่อยให้ เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ยืมตัวเช่นกัน
เมื่อกลับมายัง นิวคาสเซิล ในฤดูกาล 2020/21 และ 2021/22 ยาคอบ เมอร์ฟี ได้รับโอกาสลงสนามมากพอสมควร แต่ก็ทำผลงานได้ไม่ดีเลย เขายิงรวมกัน 2 ฤดูกาลได้เพียง 4 ประตูเท่านั้น จนต้องตกไปเป็นตัวสำรอง และแฟนๆก็มองว่าเขาคงหมดอนาคตกับทีมแล้ว
อย่างไรก็ตามในฤดูกาล 2022/23 ปัจจุบัน เมอร์ฟี ได้รับคำแนะนำจาก เอ็ดดี ฮาว ทำให้เขาสามารถเค้นฟอร์มที่ดีออกมารับใช้นิวคาสเซิลได้อย่างยอดเยี่ยม แม้จะได้ลงสนามเป็นตัวสำรอง ก็ลงมาทำประตูได้อยู่เสมอ จนขณะนี้ยิงไปแล้ว 4 ประตู พร้อมกับได้รับความไว้วางใจมากขึ้น กลับมาได้ลงสนามเป็นตัวจริงด้วยในบางเกม
ยาคอบ เมอร์ฟี เป็นคนที่มีฝีเท้าอยู่แล้ว ขาดแค่วิธีใช้งาน และนิวคาสเซิล ยุคปัจจุบันก็มองหามันได้สำเร็จ จากนี้แฟนๆคงได้เห็น เมอร์ฟี พัฒนาฟอร์มการเล่นของตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
