สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแถลงข่าว “ทิศทางการท่องเที่ยวและกีฬา ปี 2568” ซึ่งจัดโดย กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ ททท. เพื่อประกาศนโยบายขับเคลื่อนการท่องเที่ยวและกีฬาไทยอย่างยั่งยืน โดยมีตัวแทนจากสมาคมฯ นำโดย พันจ่าอากาศเอก นัฐพงศ์ เกษาพันธ์ เลขาธิการสมาคมฯ พร้อมนักกีฬาทีมชาติไทยขวัญใจแฟน ๆ อย่าง “ชมพู่” พรพรรณ เกิดปราชญ์, “บุ๋มบิ๋ม” ชัชชุอร โมกศรี, “บีม” พิมพิชยา ก๊กรัมย์ โดยการข้าร่วมในครั้งนี้ ได้สะท้อนบทบาทสำคัญของวอลเลย์บอลไทยในเวที “Sports Tourism” ที่กำลังเติบโต พร้อมส่งต่อพลังบวกจากนักกีฬาสู่การสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยในระดับนานาชาติ
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า กีฬา เป็นสิ่งที่เราเน้นมากๆ ในการเอามารวมกับทัวริซึม โลกทุกวันนี้กีฬาจะโดดเดี่ยวไม่ได้ ต้องนำมาบวกกับเอ็นเตอร์เทนเมนต์ และการท่องเที่ยว ซึ่งเราให้ความสำคัญ โดยเปิดประตูสู่โอกาสทางเศรษฐกิจด้วย Sport Tourism Events เช่น การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก ของสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ ประจำปี 2025 ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 และ เจ้าภาพการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9 – 20 ธันวาคม 2568 ควบคู่ไปกับการเผยแพร่เสน่ห์ไทย วัฒนธรรมไทยสู่สายตาชาวโลก ด้วยหมุดหมายของการขับเคลื่อนสู่การท่องเที่ยวคุณภาพ เพิ่มรายได้ กระจายการท่องเที่ยวสู่เมืองน่าเที่ยว สร้างโอกาสอย่างทั่วถึง เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และพร้อมมุ่งสู่ปี 2569 อย่างเต็มศักยภาพ
“สำหรับวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2025 แต่ละประเทศไม่ได้มาแค่ 32 ทีม แต่ยังมีผู้ติดตาม และครอบครัวของนักกีฬาจากประเทศต่างๆเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนสร้างรายได้ และประโยชน์ให้ประเทศมหาศาล”
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า กีฬานั้นมีส่วนช่วยให้การท่องเที่ยวมีความยั่งยืน โดยเฉพาะการนำอีเวนต์กีฬาระดับโลกมาจัดในประเทศไทย ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งในมิติของกีฬา และการสร้างรายได้ให้กับประเทศ
“ในเดือน สิงหาคม เราจะได้เป็นเจ้าภาพการแข่งวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2025 มี 32 ประเทศเข้าร่วม และมีนักท่องเที่ยวเข้ามายังประเทศไทยหลายหมื่นคน ก็คาดว่าจะสร้างรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท รวมถึงจะเป็นซิงเกิลสปอร์ต ที่ใหญ่ที่สุดที่ประเทศไทยเคยจัดการแข่งขันมา”
สำหรับ วอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม ถึงวันที่ 7 กันยายน 2568 โดยจะมีทีมตัวแทนจากประเทศต่างๆ ทุกทวีปทั่วโลก ที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือก มาร่วมการแข่งขัน 32 ทีม แบ่งการแข่งขันออกเป็น 8 สาย สายละ 4 ทีม กระจายจัดการแข่งขันรอบแรก ไปยังเมืองหลักของทุกภาค รวม 4 เมือง คือ ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดนครราชสีมา, ภาคใต้ จังหวัดภูเก็ต และกรุงเทพมหานคร
